ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้(15 ต.ค.) ร.ต.อ.กรวัชร ใจเที่ยง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ควบคุมตัว นายณัฐ สัตยาภรณ์พิสุทธิ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 -26 ตุลาคมนี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติคอมพิวเตอร์และตรวจสอบประวัติอาชญากร ทั้งนี้เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องนำตัวผู้ต้องหาตรวจสอบกับเครื่องจับเท็จจากผู้เชี่ยวชาญ และให้ผู้ต้องหานำชี้ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหาที่ได้ตรวจยึดมา ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงจะขอนำตัวผู้ต้องหากลับไปควบคุมต่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ตามคำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2551 คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)ได้มีมติดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีที่มีการนำข้อความรูปภาพ เสียงที่มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท เผยแพร่บนเวบไซต์ Youtube.com ซึ่งการสอบสวนพบว่า นายสุวิชา ท่าค้อ ได้ร่วมกับบบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า StopLeseMajeste เป็นผู้กระทำผิดจึงได้มีการจับกุมนายวิชา ส่งฟ้องต่อศาลอาญา ส่วนบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า StopLeseMajeste ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด กระทั่งได้มีการสืบสวนขยายผลพบว่าผู้ใช้นามแฝงดังกล่าว คือนายอีมิลิโอ เอสเทแบน (Emilio Esteban) อายุ 46 ปี ชาวอังกฤษ อาศัยอยู่ที่ประเทศสเปน ใช้อีเมล์ติดต่อกับนายสุวิชา โดยตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2551 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2552 นายอีมิลิโอ ได้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ไว้ในเว็บบล็อก โดยใช้อินเทอร์เน็ตจากประเทศสเปน มีเป้าหมายหลักเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ
จึงขออนุญาตศาลอาญาเข้าถึงข้อมูลในอีเมล์ของนายอีมิลิโอ และจากการตรวจสอบพบว่า วันที่ 21-23 กรกฎาคม 2552 ได้มีอีเมล์ของนายณัฐ ผู้ต้องหาส่งข้อมูล ภาพ และเสียงที่มีลักษณะหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ให้กับนายอีมิลิโอ จำนวน 3 คลิป ซึ่งเป็นคลิปเดียวกันกับที่มีการเผยแพร่ในเว็บบล็อกของนายอีมิลิโอ พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับนายณัฐ ผู้ต้องหา ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา และได้จับกุมผู้ต้องหาในวันเดียวกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาว่า นายณัฐกระทำผิดฐานนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลนั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่รู้อยู่แล้วว่ามีลักษณะอันลามกฯ ที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ขณะที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ตามคำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2551 คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)ได้มีมติดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีที่มีการนำข้อความรูปภาพ เสียงที่มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท เผยแพร่บนเวบไซต์ Youtube.com ซึ่งการสอบสวนพบว่า นายสุวิชา ท่าค้อ ได้ร่วมกับบบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า StopLeseMajeste เป็นผู้กระทำผิดจึงได้มีการจับกุมนายวิชา ส่งฟ้องต่อศาลอาญา ส่วนบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า StopLeseMajeste ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด กระทั่งได้มีการสืบสวนขยายผลพบว่าผู้ใช้นามแฝงดังกล่าว คือนายอีมิลิโอ เอสเทแบน (Emilio Esteban) อายุ 46 ปี ชาวอังกฤษ อาศัยอยู่ที่ประเทศสเปน ใช้อีเมล์ติดต่อกับนายสุวิชา โดยตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2551 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2552 นายอีมิลิโอ ได้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ไว้ในเว็บบล็อก โดยใช้อินเทอร์เน็ตจากประเทศสเปน มีเป้าหมายหลักเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ
จึงขออนุญาตศาลอาญาเข้าถึงข้อมูลในอีเมล์ของนายอีมิลิโอ และจากการตรวจสอบพบว่า วันที่ 21-23 กรกฎาคม 2552 ได้มีอีเมล์ของนายณัฐ ผู้ต้องหาส่งข้อมูล ภาพ และเสียงที่มีลักษณะหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ให้กับนายอีมิลิโอ จำนวน 3 คลิป ซึ่งเป็นคลิปเดียวกันกับที่มีการเผยแพร่ในเว็บบล็อกของนายอีมิลิโอ พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับนายณัฐ ผู้ต้องหา ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา และได้จับกุมผู้ต้องหาในวันเดียวกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาว่า นายณัฐกระทำผิดฐานนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลนั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่รู้อยู่แล้วว่ามีลักษณะอันลามกฯ ที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ขณะที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
