กองปราบฯ ส่งคอมพิวเตอร์สองผู้ต้องหา “เอสซี แอสเสท” ให้ ศตท.เช็กละเอียด พร้อมโคลนนิ่งข้อมูลคอมพ์ 8 เครื่องส่งพิสูจน์ ระบุพบคลิปตัดต่อเสียง “มาร์ค” แนบไฟล์ส่งต่อให้ 6 รายในบริษัท และหนึ่งรายอีเมล์ส่งให้คนนอก ขณะที่รอง ผบช.ก.แบ่งทีมงานลงพื้นที่คุ้ยหาต้นตอ พร้อมเรียกสอบผู้เกี่ยวข้องตามตัวใหญ่สั่งการมาดำเนินคดี
วันนี้ (1 ก.ย.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคลิปตัดต่อเสียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ภายหลังจากตำรวจกองปราบปรามเข้าตรวจค้นที่โต๊ะทำงานของสองพนักงานบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาเผยแพร่ และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้นำข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ตรวจสอบ และวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี (ศตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งในเบื้องต้น พบว่า เป็นการนำคลิปตัดต่อเสียงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และมีการส่งต่อไปอีก 6 คน ส่วนใครจะเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรนั้นจะต้องพิจารณาจากข้อมูลที่ได้มา หากพบว่าใครมีส่วนร่วมกระทำผิดก็จะพิจารณาเชิญตัวมาสอบสวนอีกครั้ง
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวต่อไปว่า ขั้นตอนการดำเนินการต่อไปทางพนักงานสอบสวนจะสืบสวนสอบสวน เพื่อหาต้นตอคนตัดต่อ ซึ่งได้แบ่งชุดทำงานออกติดตามแล้ว ส่วนการเผยแพร่ซีดีนั้นก็ได้ส่งชุดทำงานลงพื้นที่หลายแห่งตามที่ได้เบาะแสมา แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีที่ใดบ้าง เพื่อตรวจสอบว่ายังมีการแจกจ่ายหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการแจกจ่ายซีดีแต่อย่างใด เช่นเดียวกับการเผยแพร่คลิปผ่านระบบอินเตอร์เน็ตก็พบว่ายุติลงแล้ว เชื่อว่า เป็นผลมาจากการที่ประชาชนเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
“การสืบสวนหาตัวผู้ตัดต่อคลิปเสียงนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังดำเนินการอยู่ อย่างต่อเนื่องและมีโอกาสสืบสวนสอบสวนไปถึงผู้ตัดต่อหากได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย” รอง ผบช.ก. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้าตรวจค้นที่ทำงานของสองผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้องบริเวณชั้น 19-20 บริษัท เอสซี แอสเสท เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น พนักงานสอบสวนได้โคลนนิงข้อมูลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด 8 เครื่อง มาตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่า ส่วนใหญ่เป็นการส่งต่อให้กันในหมู่พนักงานบริษัท แต่ทั้งนี้ มีอยู่รายหนึ่งซึ่งได้รับอีเมล์คลิปตัดต่อเสียงมาแล้วส่งต่อไปให้บุคคลอื่นภายนอก ซึ่งในส่วนนี้พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาเชิญตัวมาสอบสวนต่อไป