นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมโยกนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน เป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านเศรษฐกิจแทน ว่า เมื่อ 2 วันก่อน ตนได้ถามนายกรัฐมนตรีและได้รับคำตอบว่า เป็นนายไตรรงค์ ซึ่งถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง เป็นนักการเมือง เป็น ส.ส.มานาน และยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เชื่อว่าจะช่วยนายกรัฐมนตรีทำงานได้ แต่อยู่ที่ว่านายกรัฐมนตรีจะมอบหมายงานอะไร ส่วนนายกอร์ปศักดิ์นั้น ถือว่าทำงานใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีมานาน
ส่วนการตั้งนายไตรรงค์จะช่วยประสานรอยร้าวในพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า จริงๆ แล้วในพรรคไม่มีปัญหากลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นความสับสนมาตั้งแต่ตอนแข่งขันหัวหน้าพรรคระหว่างนายอภิสิทธิ์ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ตอนตั้งรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เลือกว่าใครอยู่กลุ่มไหน แต่เลือกตามความสามารถ ถือเป็นจุดแข็งของพรรค เพราะแม้จะมีความเห็นไม่ตรงกันก็ไม่มีการแบ่งกลุ่ม ดังนั้น ขอให้คนที่ห่วงสบายใจได้
ในเรื่องที่ว่านายกอร์ปศักดิ์จะมีปัญหาประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาภาพนายกอร์ปศักดิ์ มักจะขัดกับพรรคร่วมรัฐบาลเสมอ นายชวน กล่าวว่า เลขาธิการนายกรัฐมนตรีไม่มีสิทธิอนุมัติงบประมาณ และที่ผ่านมานายกอร์ปศักดิ์ ได้พยายามรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม ความเห็นจึงอาจไม่ตรงกับพรรคร่วมบ้าง ทั้งนี้ หน้าที่การประสานพรรคร่วมรัฐบาล เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทำได้ดีกว่าอยู่แล้ว
ส่วนการตั้งนายไตรรงค์จะช่วยประสานรอยร้าวในพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า จริงๆ แล้วในพรรคไม่มีปัญหากลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นความสับสนมาตั้งแต่ตอนแข่งขันหัวหน้าพรรคระหว่างนายอภิสิทธิ์ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ตอนตั้งรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เลือกว่าใครอยู่กลุ่มไหน แต่เลือกตามความสามารถ ถือเป็นจุดแข็งของพรรค เพราะแม้จะมีความเห็นไม่ตรงกันก็ไม่มีการแบ่งกลุ่ม ดังนั้น ขอให้คนที่ห่วงสบายใจได้
ในเรื่องที่ว่านายกอร์ปศักดิ์จะมีปัญหาประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาภาพนายกอร์ปศักดิ์ มักจะขัดกับพรรคร่วมรัฐบาลเสมอ นายชวน กล่าวว่า เลขาธิการนายกรัฐมนตรีไม่มีสิทธิอนุมัติงบประมาณ และที่ผ่านมานายกอร์ปศักดิ์ ได้พยายามรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม ความเห็นจึงอาจไม่ตรงกับพรรคร่วมบ้าง ทั้งนี้ หน้าที่การประสานพรรคร่วมรัฐบาล เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทำได้ดีกว่าอยู่แล้ว
