นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้ โดยที่ประชุมเห็นชอบตั้งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานโดยตำแหน่ง พร้อมทั้งกำหนดโครงสร้างภายในสำนักงานฯ โดยให้โอนข้าราชการบางส่วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องๆ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอื่นๆ มาร่วมในสำนักงานดังกล่าว และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้าที่จะขอเงินงบประมาณจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นดำเนินงานในด้านต่างๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งต่อไปจะนำเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อดำเนินตามโครงการไว้เบื้องต้นจำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์ และเพื่อให้สำนักงานแห่งนี้ถูกต้องตามกฎหมาย จะใช้การออกเป็นพระราชบัญญัติการจัดตั้งสำนักงานให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม 2552 นี้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการเร่งด่วนที่จะผลักดันให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อให้การพิจารณาจัดสรรงบประมาณและการพิจารณาโครงการที่ยื่นเสนอมาแล้วหลายร้อยโครงการ รวมเป็นวงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท ลุล่วงโดยเร็ว ซึ่งหากโครงการใดสามารถใช้งบประมาณประจำก็ให้ใช้งบประจำ เพราะมีการยื่นขอใช้เงินเกินงบที่ตั้งไว้กว่า 21,000 ล้านบาท เกือบครึ่ง ส่วนที่เหลือก็ต้องจัดสรรงบให้เหมาะสมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ น่าจะไม่เกิน 2-3 เดือน จะรู้ชัดว่ามีโครงการใดบ้างที่ได้รับการอนุมัติ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ จะโอนงานของศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาของกรมทรัพย์สินทางปัญญา และสำนักงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้าของกรมส่งเสริมการส่งออก เข้าไปอยู่ในสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่วนงานที่เหลือของกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็จะแปรรูปการทำงานเหมือนองค์กรมหาชน เพื่อให้การทำงานและจัดสรรงบประมาณได้คล่องตัวขึ้น แต่ยังคงสถานะเป็นกรมเหมือนเดิม โดยกรมอื่น ๆ ในกระทรวงพาณิชย์ก็กำลังมีการปรับโครงสร้างเช่นกัน เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ให้ส่งแผนการศึกษาปรับโครงสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งต่อไปจะนำเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อดำเนินตามโครงการไว้เบื้องต้นจำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์ และเพื่อให้สำนักงานแห่งนี้ถูกต้องตามกฎหมาย จะใช้การออกเป็นพระราชบัญญัติการจัดตั้งสำนักงานให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม 2552 นี้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการเร่งด่วนที่จะผลักดันให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อให้การพิจารณาจัดสรรงบประมาณและการพิจารณาโครงการที่ยื่นเสนอมาแล้วหลายร้อยโครงการ รวมเป็นวงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท ลุล่วงโดยเร็ว ซึ่งหากโครงการใดสามารถใช้งบประมาณประจำก็ให้ใช้งบประจำ เพราะมีการยื่นขอใช้เงินเกินงบที่ตั้งไว้กว่า 21,000 ล้านบาท เกือบครึ่ง ส่วนที่เหลือก็ต้องจัดสรรงบให้เหมาะสมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ น่าจะไม่เกิน 2-3 เดือน จะรู้ชัดว่ามีโครงการใดบ้างที่ได้รับการอนุมัติ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ จะโอนงานของศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาของกรมทรัพย์สินทางปัญญา และสำนักงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้าของกรมส่งเสริมการส่งออก เข้าไปอยู่ในสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่วนงานที่เหลือของกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็จะแปรรูปการทำงานเหมือนองค์กรมหาชน เพื่อให้การทำงานและจัดสรรงบประมาณได้คล่องตัวขึ้น แต่ยังคงสถานะเป็นกรมเหมือนเดิม โดยกรมอื่น ๆ ในกระทรวงพาณิชย์ก็กำลังมีการปรับโครงสร้างเช่นกัน เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ให้ส่งแผนการศึกษาปรับโครงสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้