“ธีระ”สั่งหน่วยงานในสังกัดวธ.คุมจ้างออกาไนเซอร์ ระบุบางงานตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เปลืองงบ ด้อยคุณภาพ เข้มหากินงบศก.สร้างสรรค์วธ.หวั่นผลาญภาษีประชาชน กำชับให้ข้าราชการจัดงาน
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ วธ.ในหลายภาคส่วนว่า การดำเนินกิจกรรม โครงการ หรือ การจัดงานแถลงข่าว วธ. จะเน้นการว่าจ้างบริษัทออกาไนเซอร์ หรือบริษัทเอกชนในการจัดงานต่างๆซึ่งหลายครั้งงานออกมาไม่มีคุณภาพ ซึ่งบางกิจกรรมข้าราชการมีศักยภาพที่จะดำเนินการเอง ทำให้สูญเสียภาษีของประชาชนไปโดยไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า ตนได้สั่งให้ทุกหน่วยงานในสังกัด วธ. ได้แก่ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) สำนักงานปลัด วธ. กรมการศาสนา(ศน.) และกรมศิลปากร(ศก.) ไปตรวจสอบจำนวนโครงการและการว่าจ้างบริษัทออกาไนเซอร์ในการจัดงานและเตรียมงานในช่วง 1ปีที่ผ่านมาว่ามีความถี่มากน้อยแค่ไหนแล้ว
นายธีระ กล่าวต่อไปว่า ตนได้รับการรายงานในเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดจ้างออกาไนเซอร์ของแต่ละหน่วย พบว่า มีจำนวนไม่มาก และถือว่าน้อยมาก หากไปเทียบกับกระทรวงอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการไปว่าหลังจากนี้หากหน่วยงานในสังกัด วธ. จะจัดโครงการหรือจัดกิจกรรมใด ควรพิจารณาให้รอบคอบว่า มีงานส่วนไหนบ้างที่ข้าราชการไม่สามารถทำได้และต้องจ้าง เพื่อเป็นการลบข้อครหาดังกล่าว และเป็นการให้ข้าราชการ วธ. ได้แสดงความสามารถในการทำงานอย่างเต็มที่
“ขณะนี้ วธ.กำลังดำเนินการขับเคลื่อนโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จำนวน 7 โครงการ ผมคิดว่า ควรจะต้องใช้ออกาไนเซอร์ให้น้อยที่สุด เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ”รมว.วัฒนธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจโครงการและกิจกรรมต่างๆของวธ. พบว่า ขณะนี้มีหลายโครงการจ้างออกาไนเซอร์ โดยเฉพาะการจัดงานซะป๊ะของดี ต๋ามวิถีเจียงใหม่ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งหรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งใช้งบประมาณว่าจ้างออกาไนเซอร์เกือบ 2 ล้านบาท นอกจากนี้การจัดงานของวธ.ที่จังหวัดลพบุรีในเร็วๆนี้ รมว.วัฒนธรรม ได้สั่งการให้ข้าราชจัดงานเอง โดยไม่มีการจ้างออกาไนเซอร์ แต่หากจะจ้างต้องเป็นงานที่ข้าราชการทำไม่ได้
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ วธ.ในหลายภาคส่วนว่า การดำเนินกิจกรรม โครงการ หรือ การจัดงานแถลงข่าว วธ. จะเน้นการว่าจ้างบริษัทออกาไนเซอร์ หรือบริษัทเอกชนในการจัดงานต่างๆซึ่งหลายครั้งงานออกมาไม่มีคุณภาพ ซึ่งบางกิจกรรมข้าราชการมีศักยภาพที่จะดำเนินการเอง ทำให้สูญเสียภาษีของประชาชนไปโดยไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า ตนได้สั่งให้ทุกหน่วยงานในสังกัด วธ. ได้แก่ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) สำนักงานปลัด วธ. กรมการศาสนา(ศน.) และกรมศิลปากร(ศก.) ไปตรวจสอบจำนวนโครงการและการว่าจ้างบริษัทออกาไนเซอร์ในการจัดงานและเตรียมงานในช่วง 1ปีที่ผ่านมาว่ามีความถี่มากน้อยแค่ไหนแล้ว
นายธีระ กล่าวต่อไปว่า ตนได้รับการรายงานในเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดจ้างออกาไนเซอร์ของแต่ละหน่วย พบว่า มีจำนวนไม่มาก และถือว่าน้อยมาก หากไปเทียบกับกระทรวงอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการไปว่าหลังจากนี้หากหน่วยงานในสังกัด วธ. จะจัดโครงการหรือจัดกิจกรรมใด ควรพิจารณาให้รอบคอบว่า มีงานส่วนไหนบ้างที่ข้าราชการไม่สามารถทำได้และต้องจ้าง เพื่อเป็นการลบข้อครหาดังกล่าว และเป็นการให้ข้าราชการ วธ. ได้แสดงความสามารถในการทำงานอย่างเต็มที่
“ขณะนี้ วธ.กำลังดำเนินการขับเคลื่อนโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จำนวน 7 โครงการ ผมคิดว่า ควรจะต้องใช้ออกาไนเซอร์ให้น้อยที่สุด เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ”รมว.วัฒนธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจโครงการและกิจกรรมต่างๆของวธ. พบว่า ขณะนี้มีหลายโครงการจ้างออกาไนเซอร์ โดยเฉพาะการจัดงานซะป๊ะของดี ต๋ามวิถีเจียงใหม่ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งหรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งใช้งบประมาณว่าจ้างออกาไนเซอร์เกือบ 2 ล้านบาท นอกจากนี้การจัดงานของวธ.ที่จังหวัดลพบุรีในเร็วๆนี้ รมว.วัฒนธรรม ได้สั่งการให้ข้าราชจัดงานเอง โดยไม่มีการจ้างออกาไนเซอร์ แต่หากจะจ้างต้องเป็นงานที่ข้าราชการทำไม่ได้