ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาจำคุก นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมปรับบริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม และบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) 20,000 บาท ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
จากกรณีที่ นายสนธิกล่าวหา นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2550 ในทำนองว่า นายนพดลทรยศต่อทุนหลวง เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะเป็นทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ไม่อาจรับฟังได้ว่า นายนพดลต้องมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันด้วย ส่วนการได้รับทุนอานันทมหิดล แม้โจทก์จะได้รับทุนจริง แต่ทุนดังกล่าวไม่มีเงื่อนไขให้ต้องกลับมาทำงานตอบแทน พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหลักล้างพยานโจทก์ได้ จึงพิพากษาจำคุกและปรับดังกล่าว พร้อมให้ทำลายและยึดภาพและเสียงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่มีการกล่าวหาดังกล่าวทั้งหมด พร้อมให้เผยแพร่คำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ ติดต่อกัน 7 วัน
ขณะที่ นายสนธิ กล่าวว่า พร้อมน้อมรับคำพิพากษา แต่ขอใช้สิทธิ์ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งตนจะอุทธรณ์และฎีกาต่อไป ทั้งนี้เห็นว่า คำชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในคดีเขาพระวิหาร จะยืนยันได้ว่าตนเองไม่ได้พูดเกินความจริง
จากกรณีที่ นายสนธิกล่าวหา นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2550 ในทำนองว่า นายนพดลทรยศต่อทุนหลวง เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะเป็นทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ไม่อาจรับฟังได้ว่า นายนพดลต้องมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันด้วย ส่วนการได้รับทุนอานันทมหิดล แม้โจทก์จะได้รับทุนจริง แต่ทุนดังกล่าวไม่มีเงื่อนไขให้ต้องกลับมาทำงานตอบแทน พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหลักล้างพยานโจทก์ได้ จึงพิพากษาจำคุกและปรับดังกล่าว พร้อมให้ทำลายและยึดภาพและเสียงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่มีการกล่าวหาดังกล่าวทั้งหมด พร้อมให้เผยแพร่คำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ ติดต่อกัน 7 วัน
ขณะที่ นายสนธิ กล่าวว่า พร้อมน้อมรับคำพิพากษา แต่ขอใช้สิทธิ์ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งตนจะอุทธรณ์และฎีกาต่อไป ทั้งนี้เห็นว่า คำชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในคดีเขาพระวิหาร จะยืนยันได้ว่าตนเองไม่ได้พูดเกินความจริง