นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ารับฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาจากการกล่าวในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ที่วัดบ้านป่า จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2548 ว่า โจทก์เป็นอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ไม่เคารพสถาบันเบื้องสูง และการปกครองระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งยังเกี่ยวข้องกับการทำเว็บไซต์จาบจ้วงสถาบัน
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายสนธิ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดให้ปรับ 200,000 บาท และให้ทำลายแผ่นวีซีดี ดีวีดี รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรครั้งที่ 10 และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2548 รวมทั้งให้โฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันเป็นเวลา 3 วัน
วันนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุกนายสนธิ เป็นเวลา 6 เดือน ไม่รอลงอาญา เนื่องจากบทลงโทษของศาลชั้นต้นรุนแรงเกินไป
ส่วนการที่นายสนธิ อุทธรณ์ให้มีการลงอาญา ศาลเห็นว่า นายสนธิ เป็นผู้จัดการสื่อมาเป็นเวลานาน ย่อมทราบดีว่าคำพูดของตนมีน้ำหนักให้ประชาชนเชื่อถือเป็นอย่างมาก คำอุทธรณ์ของจำเลยจึงตกไป พร้อมกับสั่งปรับ บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ซึ่งมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดเป็นเงิน 200,000 บาท
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายสนธิ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดให้ปรับ 200,000 บาท และให้ทำลายแผ่นวีซีดี ดีวีดี รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรครั้งที่ 10 และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2548 รวมทั้งให้โฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันเป็นเวลา 3 วัน
วันนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุกนายสนธิ เป็นเวลา 6 เดือน ไม่รอลงอาญา เนื่องจากบทลงโทษของศาลชั้นต้นรุนแรงเกินไป
ส่วนการที่นายสนธิ อุทธรณ์ให้มีการลงอาญา ศาลเห็นว่า นายสนธิ เป็นผู้จัดการสื่อมาเป็นเวลานาน ย่อมทราบดีว่าคำพูดของตนมีน้ำหนักให้ประชาชนเชื่อถือเป็นอย่างมาก คำอุทธรณ์ของจำเลยจึงตกไป พร้อมกับสั่งปรับ บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ซึ่งมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดเป็นเงิน 200,000 บาท