นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เพื่อติดตามผลการปลูกยางพาราในโครงการปลูกยางพารา 1 ล้านไร่ ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 พบว่าร้อยละ 90 ต้นยางเจริญเติบโตเร็ว ได้ผลดี โดยเฉพาะภาคเหนือ และอีสานบางพื้นที่ เช่น จ.พะเยา และ จ.เลย ต้นยางเริ่มเปิดกรีดได้บ้างแล้ว ซึ่งมีผลเสียหายบ้างประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากประสบปัญหาความแห้งแล้ง และเกษตรกรบางรายยังดูแลต้นยางไม่เป็น
ทั้งนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่พอใจ เพราะจะมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การปลูกยางยังช่วยให้สภาพภูมิอากาศในพื้นที่ดีขึ้นด้วย ทางสมาพันธ์ฯจึงต้องการให้รัฐบาลขยายโครงการต่อไปอีกเป็น 4 ล้านไร่ เพราะจะเป็นการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้เกษตรกร และมั่นใจว่า การปลูกยางพาราเพิ่มขึ้น ก็จะมีตลาดรองรับอย่างแน่นอน เนื่องจากในการประชุมร่วมกันกับประเทศผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา พบว่า จีน และอินเดีย ได้ขยายการผลิตอะไหล่ยานยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ภายใน 10 ปีนี้ ความต้องการยางพาราในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
ทั้งนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่พอใจ เพราะจะมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การปลูกยางยังช่วยให้สภาพภูมิอากาศในพื้นที่ดีขึ้นด้วย ทางสมาพันธ์ฯจึงต้องการให้รัฐบาลขยายโครงการต่อไปอีกเป็น 4 ล้านไร่ เพราะจะเป็นการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้เกษตรกร และมั่นใจว่า การปลูกยางพาราเพิ่มขึ้น ก็จะมีตลาดรองรับอย่างแน่นอน เนื่องจากในการประชุมร่วมกันกับประเทศผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา พบว่า จีน และอินเดีย ได้ขยายการผลิตอะไหล่ยานยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ภายใน 10 ปีนี้ ความต้องการยางพาราในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว