นายปรีชา เลิศกมลมาศ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ตกเป็นหนึ่งในจุดล่อแหลมที่อาจถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมาปิดล้อมสร้างความรุนแรงในการชุมนุมวันที่ 19 กันยายนว่า นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ได้สั่งการให้มีการกวดขันและเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในช่วงดังกล่าว โดยจะมีการส่งกำลังตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 150 นาย เข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในสำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งแต่เย็นวันที่ 18 -20 กันยายน ส่วนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ที่ต้องเดินทางมาทำงานในวันที่ 19-20 กันยายน ก็สั่งให้หยุดงานไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่เอกสารสำคัญทางคดีต่าง ๆ ก็ได้นำไปเก็บไว้ในตู้นิรภัยอย่างดี มีระบบการป้องกันภัยแน่นหนา ซึ่งจากการประเมินเหตุการณ์คิดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่น่าจะมีการก่อเหตุรุนแรงเกิดขึ้นที่สำนักงาน ป.ป.ช. อย่างมากคงเป็นเพียงการตั้งเวทีโจมตีเท่านั้น แต่เพื่อความไม่ประมาทก็ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยไว้ เพราะอาจมีมือที่สามเข้ามาสวมรอยสร้างความรุนแรงได้
ด้านนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ยังมั่นใจว่า ตำรวจจะสามารถดูแลความปลอดภัยให้สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ คงไม่เกิดเหตุร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นถึงขั้นเผา หรือทำลายทรัพย์สิน เพราะหากกลุ่มผู้ชุมนุมทำก็จะยิ่งเสียเอง และไม่คิดว่าตำรวจจะเกียร์ว่างในการดูแลความปลอดภัยบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช. ภายหลังจากที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในคดีการสั่งสลายกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ยังเชื่อว่า ตำรวจยังมีสปิริตในการปฏิบัติหน้าที่ตามแผนการดูแลรักษาความปลอดภัย
ส่วนที่รัฐสภา ตลอดช่วงเย็นจนถึงช่วงค่ำ ได้มีทหารจาก พล.ม.2 รอ.จำนวน 3 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนครบาล 2 กองร้อย รวมกันกว่า 600 นาย ต่างทยอยเคลื่อนกำลังเข้ามาภายในบริเวณรัฐสภา และมีการกระจายกำลังไปตามจุดต่าง ๆ รวมทั้งประตูทางเข้าทุกด้าน เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย และตรวจตราบุคคลเข้า-ออก อย่างเข้มงวด ขณะที่ข้าราชการบางส่วนที่เคยทำงานจนถึงช่วงค่ำ ก็ไม่มีการทำโอทีเหมือนเช่นทุกวัน ต่างทยอยออกจากรัฐสภาจนหมด
ด้านนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ยังมั่นใจว่า ตำรวจจะสามารถดูแลความปลอดภัยให้สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ คงไม่เกิดเหตุร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นถึงขั้นเผา หรือทำลายทรัพย์สิน เพราะหากกลุ่มผู้ชุมนุมทำก็จะยิ่งเสียเอง และไม่คิดว่าตำรวจจะเกียร์ว่างในการดูแลความปลอดภัยบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช. ภายหลังจากที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในคดีการสั่งสลายกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ยังเชื่อว่า ตำรวจยังมีสปิริตในการปฏิบัติหน้าที่ตามแผนการดูแลรักษาความปลอดภัย
ส่วนที่รัฐสภา ตลอดช่วงเย็นจนถึงช่วงค่ำ ได้มีทหารจาก พล.ม.2 รอ.จำนวน 3 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนครบาล 2 กองร้อย รวมกันกว่า 600 นาย ต่างทยอยเคลื่อนกำลังเข้ามาภายในบริเวณรัฐสภา และมีการกระจายกำลังไปตามจุดต่าง ๆ รวมทั้งประตูทางเข้าทุกด้าน เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย และตรวจตราบุคคลเข้า-ออก อย่างเข้มงวด ขณะที่ข้าราชการบางส่วนที่เคยทำงานจนถึงช่วงค่ำ ก็ไม่มีการทำโอทีเหมือนเช่นทุกวัน ต่างทยอยออกจากรัฐสภาจนหมด