พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกดีเอสไอ ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ แถลงชี้แจงกรณี พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ผู้บังคับบัญชาคือ อธิบดีดีเอสไอ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยออกคำสั่งมิชอบและประวิงเวลาไม่สั่งคดีบุกรุกป่าสบกก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทำให้คณะพนักงานสอบสวนขอถอนตัวในการทำคดีว่า เหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของ พ.อ.ปิยะวัฒก์ ยืนยันว่า พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีบุกรุกป่าสบกก ไม่ได้สั่งให้ดำเนินคดีกับประจักษ์พยานในคดีดังกล่าว แต่สั่งการให้เพียงพิจารณาดูว่าต้องดำเนินคดีกับพยานดังกล่าวหรือไม่ และท้ายที่สุดไม่ได้มีการดำเนินคดีรวมทั้งยังสั่งคุ้มครองพยานดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ความล่าช้าของคดีนี้นาน 15 เดือนไม่มีการสั่งคดี เนื่องจากอธิบดีและรองอธิบดียังไม่ได้รับสำนวนที่ให้สอบสวนเพิ่มเติมจาก พ.อ.ปิยะวัฒก์ อย่างไรก็ตาม หากพนักงานสอบสวนถอนตัวจากคดี อธิบดีดีเอสไอก็อยู่ในอำนาจที่ต้องแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีบุกรุกป่าสบกกชุดใหม่
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวชี้แจงว่า เนื่องจากประเด็นที่ดินป่าสบกกยังมีความสับสนว่า เป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ หรือที่ดิน ส.ป.ก. จึงมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนสมบูรณ์เพิ่ม ส่วนกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญของศาลในทางวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่ มีความเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเป็นเพียงความเห็นทางคดี ยังไม่ถือเป็นพยานในคดี เพราะไม่มีการสอบปากคำ อย่างไรก็ตาม กรณีการร้องผู้บังคับบัญชาต่อ ป.ป.ช. ตนไม่อาจตอบได้ว่าผู้ที่ถูกพาดพิงถึงจากการแถลงข่าวของ พ.อ.ปิยะวัฒก์ จะฟ้องกลับหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์หรือตั้งกรรมการสอบสวน พ.อ.ปิยะวัฒก์ แต่อย่างใด โดยอธิบดีดีเอสไอจะพยายามทำความเข้าใจกับ พ.อ.ปิยะวัฒก์ ในปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ แถลงถอนตัวจากคดีบุกรุกป่าสบกก และระบุว่าคณะพนักงานสอบสวนได้ถอนตัวด้วย เช้านี้ มีพนักงานสอบสวนในคดีบุกรุกป่าสบกกบางคนได้ทำหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ ชี้แจงว่า ไม่ได้ถอนตัวตามที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ แถลงไป และตลอดเวลาการเป็นพนักงานสอบสวนคดีนี้ได้รับมอบหมายให้เข้าไปสอบสวนทางคดีน้อยมาก
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวชี้แจงว่า เนื่องจากประเด็นที่ดินป่าสบกกยังมีความสับสนว่า เป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ หรือที่ดิน ส.ป.ก. จึงมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนสมบูรณ์เพิ่ม ส่วนกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญของศาลในทางวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่ มีความเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเป็นเพียงความเห็นทางคดี ยังไม่ถือเป็นพยานในคดี เพราะไม่มีการสอบปากคำ อย่างไรก็ตาม กรณีการร้องผู้บังคับบัญชาต่อ ป.ป.ช. ตนไม่อาจตอบได้ว่าผู้ที่ถูกพาดพิงถึงจากการแถลงข่าวของ พ.อ.ปิยะวัฒก์ จะฟ้องกลับหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์หรือตั้งกรรมการสอบสวน พ.อ.ปิยะวัฒก์ แต่อย่างใด โดยอธิบดีดีเอสไอจะพยายามทำความเข้าใจกับ พ.อ.ปิยะวัฒก์ ในปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ แถลงถอนตัวจากคดีบุกรุกป่าสบกก และระบุว่าคณะพนักงานสอบสวนได้ถอนตัวด้วย เช้านี้ มีพนักงานสอบสวนในคดีบุกรุกป่าสบกกบางคนได้ทำหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ ชี้แจงว่า ไม่ได้ถอนตัวตามที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ แถลงไป และตลอดเวลาการเป็นพนักงานสอบสวนคดีนี้ได้รับมอบหมายให้เข้าไปสอบสวนทางคดีน้อยมาก