จากเจตนาของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประกาศลาออกจากราชการ และทำหนังสือส่งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัตินั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสุเทพ ยืนยันว่า ได้ส่งหนังสือลาออกของ พล.ต.อ.พัชรวาท ให้นายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งตามขั้นตอนคงต้องเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีว่าจะลงนามอนุมัติการลาออกหรือไม่ แต่หากยังไม่มีการลงนาม พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งปรับโอน พร้อมกับชี้แจงวัตถุประสงค์ของการพิจารณาปรับโอนตำแหน่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ว่าเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงบริหาร เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดกรณีปฏิบัติหน้าที่สลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จึงไม่ต้องการให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ปฏิบัติหน้าที่หรือเซ็นคำสั่งใดๆ ต่อไป เพราะอาจจะตีความทางกฎหมาย และกลายเป็นเรื่องฟ้องร้องได้ในภายหลัง
นายสุเทพ ยืนยันว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ยังเป็นตำรวจที่มีคุณงามความดี แม้จะถูกข้อกล่าวหาหลายกรณี แต่ก็ต้องรอพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป พร้อมปฏิเสธหลักการพิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และย้ำถึงหลักการทำงานของข้าราชการตำรวจทีต้องตระหนักถึงกฎหมาย หลังมีกระแสข่าวถึงแรงเสียดทานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะความไม่พอใจที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกกดดันจากฝ่ายการเมือง เป็นเหตุให้ต้องลาออกจากราชการ
นายสุเทพ ยืนยันว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ยังเป็นตำรวจที่มีคุณงามความดี แม้จะถูกข้อกล่าวหาหลายกรณี แต่ก็ต้องรอพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป พร้อมปฏิเสธหลักการพิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และย้ำถึงหลักการทำงานของข้าราชการตำรวจทีต้องตระหนักถึงกฎหมาย หลังมีกระแสข่าวถึงแรงเสียดทานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะความไม่พอใจที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกกดดันจากฝ่ายการเมือง เป็นเหตุให้ต้องลาออกจากราชการ