นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติให้ตั้งอนุกรรมการไต่สวน ดำเนินการสอบสวนภายใน 30 วัน กรณีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ไม่ส่งสำนวนที่ กกต.วินิจฉัยให้ 16 ส.ว.ขาดสมาชิกภาพ เนื่องจากถือครองหุ้นในกิจการสื่อและบริษัทที่ได้รับสัมปทานรัฐ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำร้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 วรรค 1 ที่ ส.ว.จะใช้ตำแหน่งเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองไม่ได้ ส่วนจะต้องเชิญประธานวุฒิสภามาให้ปากคำหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกรอบการทำงานของคณะอนุกรรมการไต่สวน แต่โดยระเบียบแล้วจะต้องเชิญและเปิดโอกาสให้ผู้ร้องและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ทั้งนี้หากประธานวุฒิสภากระทำการดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญจริง จะส่งผลให้สมาชิก ส.ว.ของประธานวุฒิสภาสิ้นสุดลง
นอกจากนี้ นายสุทธิพลยังกล่าวถึงสำนวนที่ กกต.วินิจฉัยให้ 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขาดสมาชิกภาพเนื่องจากถือครองหุ้นในกิจการสื่อและบริษัทที่ได้รับสัมปทานกับรัฐ ว่า นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้ลงนามเรียบร้อย และส่งสำนวนดังกล่าวไปให้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
นอกจากนี้ นายสุทธิพลยังกล่าวถึงสำนวนที่ กกต.วินิจฉัยให้ 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขาดสมาชิกภาพเนื่องจากถือครองหุ้นในกิจการสื่อและบริษัทที่ได้รับสัมปทานกับรัฐ ว่า นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้ลงนามเรียบร้อย และส่งสำนวนดังกล่าวไปให้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
