วันนี้(21 ส.ค.) เวลา 18.08 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี นำ นายอานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปจำนวน 10 ประเทศ กับสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายจดหมายเหตุสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติจัดทำขึ้นโดยรวบรวมการดำเนินการจดทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวงระหว่างพุทธศักราช 2545 - 2550 พร้อมทั้งขอพระราชทานพระราชดำริ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินสิทธิบัตรฝนหลวง ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำเนินการขอรับสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย โดยมีสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการ และได้ยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวงในพระปรมาภิไธย ต่อสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปในชื่อเรื่อง Weather Modification by Royal Rainmaking Technology ซึ่งสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรนี้แล้ว โดยสิทธิบัตรดังกล่าว มีผลคุ้มครองครอบคลุมประเทศต่างๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรปจำนวน 30 ประเทศ แต่มี 10 ประเทศ ที่ออกเป็นสิทธิบัตรแยกแต่ละประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐไซปรัส ราชอาณาจักรเดนมาร์ก สาธารณรัฐฝรั่งเศส ราชรัฐโมร็อกโก ประเทศโรมาเนีย สาธารณรัฐตุรกี สาธารณรัฐแอมแบเนีย สาธารณรัฐลิทัวเนีย สาธารณรัฐมาซิโดเนีย ราชอาณาจักรกรีซ
สำหรับสิทธิบัตรที่ออกโดยสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้รับการขยายความคุ้มครองมาจากสิทธิบัตรของสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปเช่นกัน โอกาสนี้มีพระราชดำรัสถึงความร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศ
"ข้าพเจ้าได้เห็นมานานแล้ว ว่าการทำความก้าวหน้านั้นไม่ใช่ง่ายๆ โดยมากถ้าทำความก้าวหน้าต้องมีคนที่มีความรู้ มีคนที่มีทุน เราไม่มีทุนอะไร แต่ถ้าทำได้ ตั้งใจทำ เอาความรู้แต่ละคนนำมาใช้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ทางกระทรวงมหาดไทย ทางกระทรวงอื่นๆ ทางประชาชนมาร่วมมือกันโดยไม่นึกเอาเปรียบกัน อันนี้สำคัญที่สุด เชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าดี บ้านเมืองจะสามารถพัฒนาขึ้นมาดี โดยเฉพาะระยะนี้ บ้านเมืองกำลังยุ่ง ไม่รู้จะไปไหน ไปอย่างไร แต่ว่าไปดูที่นั่น บอกได้ว่า บ้านเมืองไม่ยุ่ง เราก็รู้สึกเป็นห่วง ว่าประเทศไทยกำลังจม (***)แต่ว่ามีการพัฒนาอย่างดี บ้านเมืองก้าวหน้า และประชาชนมีความเจริญ เรามีความหวัง มีความรู้สึกว่าบ้านเมืองจะไม่ล่มจม ซึ่งเมื่อระยะเวลาที่ผ่านมา รู้สึกว่าบ้านเมืองของเรากำลังล่มจม เพราะว่าต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างแย่งกัน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่าทำอะไร เพราะทุกคนกำลังทำ(***) อาศัยผู้ที่มีความรู้อย่างท่านทั้งหลายที่ได้มาร่วมมือกัน มีความรู้ต่างๆ กัน ขอยืนยันว่าถ้าทุกคนที่มีความรู้ มีความตั้งใจดี สามารถที่จะสร้างบ้านเมืองให้เจริญ เจริญโดยแท้จริง และขอให้ท่านช่วยกันทำ"
สำหรับสิทธิบัตรที่ออกโดยสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้รับการขยายความคุ้มครองมาจากสิทธิบัตรของสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปเช่นกัน โอกาสนี้มีพระราชดำรัสถึงความร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศ
"ข้าพเจ้าได้เห็นมานานแล้ว ว่าการทำความก้าวหน้านั้นไม่ใช่ง่ายๆ โดยมากถ้าทำความก้าวหน้าต้องมีคนที่มีความรู้ มีคนที่มีทุน เราไม่มีทุนอะไร แต่ถ้าทำได้ ตั้งใจทำ เอาความรู้แต่ละคนนำมาใช้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ทางกระทรวงมหาดไทย ทางกระทรวงอื่นๆ ทางประชาชนมาร่วมมือกันโดยไม่นึกเอาเปรียบกัน อันนี้สำคัญที่สุด เชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าดี บ้านเมืองจะสามารถพัฒนาขึ้นมาดี โดยเฉพาะระยะนี้ บ้านเมืองกำลังยุ่ง ไม่รู้จะไปไหน ไปอย่างไร แต่ว่าไปดูที่นั่น บอกได้ว่า บ้านเมืองไม่ยุ่ง เราก็รู้สึกเป็นห่วง ว่าประเทศไทยกำลังจม (***)แต่ว่ามีการพัฒนาอย่างดี บ้านเมืองก้าวหน้า และประชาชนมีความเจริญ เรามีความหวัง มีความรู้สึกว่าบ้านเมืองจะไม่ล่มจม ซึ่งเมื่อระยะเวลาที่ผ่านมา รู้สึกว่าบ้านเมืองของเรากำลังล่มจม เพราะว่าต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างแย่งกัน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่าทำอะไร เพราะทุกคนกำลังทำ(***) อาศัยผู้ที่มีความรู้อย่างท่านทั้งหลายที่ได้มาร่วมมือกัน มีความรู้ต่างๆ กัน ขอยืนยันว่าถ้าทุกคนที่มีความรู้ มีความตั้งใจดี สามารถที่จะสร้างบ้านเมืองให้เจริญ เจริญโดยแท้จริง และขอให้ท่านช่วยกันทำ"