นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีที่กรมทรัพยากรน้ำได้รับงบกระตุ้นเศรษฐกิจจากโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 7,055 ล้านบาท ว่า จากวงเงินดังกล่าวกว่า 4,700 ล้านบาท จะนำมาใช้ในการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กในเขตลุ่มน้ำต่าง ๆ กว่า 1,800 โครงการ และอีกส่วนหนึ่งจะพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ อาทิ บึงบอระเพ็ด หนองหาน ลำปาว และการปรับปรุงซ่อมแซมแหล่งน้ำ รวมทั้งการจัดหาแหล่งน้ำสะอาดให้กับประชาชน
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ของโครงการไม่ได้แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ยังได้ประโยชน์ในการจ้างงแรงงานในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นภายในระยะเวลา 1 ปี ส่วนระยะยาวได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำศึกษาออกแบบระบบการกระจายน้ำด้วยระบบคลองส่งน้ำในพื้นที่ 25 ลุ่มน้ำ เพื่อกระจายให้ถึงไร่นาของเกษตรกร รวมทั้งให้ทบทวนโครงการผันน้ำสาละวินมาลงที่เขื่อนภูมิพล เพื่อใช้ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยศึกษาความเป็นไปได้ไว้ถึง 2 รอบระหว่างปี 2538 และปี 2540 แต่ตอนนี้ยังไม่เริ่มโครงการได้ โดยเห็นว่า ควรจะเตรียมการศึกษาแบบครบวงจร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวด้วยว่า ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเม็ดเงินจะกระจุกตัว และไม่คุ้มค่ากับประสิทธิภาพของงาน เพราะก่อนทำโครงการ กรมทรัพยากรน้ำต้องออกไปสำรวจพื้นที่และรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่เสนอโครงการผ่านทางคณะกรรมการลุ่มน้ำต่าง ๆ มาก่อนแล้ว และระหว่างดำเนินงานก็จะมีการติดตามและประเมินผลความสำเร็จ โดยการจัดจ้างจะใช้ระเบียบคณะกรรมการบริหารโครงการไทยเข้มแข็งมากำกับด้วย
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ของโครงการไม่ได้แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ยังได้ประโยชน์ในการจ้างงแรงงานในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นภายในระยะเวลา 1 ปี ส่วนระยะยาวได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำศึกษาออกแบบระบบการกระจายน้ำด้วยระบบคลองส่งน้ำในพื้นที่ 25 ลุ่มน้ำ เพื่อกระจายให้ถึงไร่นาของเกษตรกร รวมทั้งให้ทบทวนโครงการผันน้ำสาละวินมาลงที่เขื่อนภูมิพล เพื่อใช้ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยศึกษาความเป็นไปได้ไว้ถึง 2 รอบระหว่างปี 2538 และปี 2540 แต่ตอนนี้ยังไม่เริ่มโครงการได้ โดยเห็นว่า ควรจะเตรียมการศึกษาแบบครบวงจร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวด้วยว่า ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเม็ดเงินจะกระจุกตัว และไม่คุ้มค่ากับประสิทธิภาพของงาน เพราะก่อนทำโครงการ กรมทรัพยากรน้ำต้องออกไปสำรวจพื้นที่และรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่เสนอโครงการผ่านทางคณะกรรมการลุ่มน้ำต่าง ๆ มาก่อนแล้ว และระหว่างดำเนินงานก็จะมีการติดตามและประเมินผลความสำเร็จ โดยการจัดจ้างจะใช้ระเบียบคณะกรรมการบริหารโครงการไทยเข้มแข็งมากำกับด้วย