นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง กล่าวว่า เงินจำนวน 200,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลจะนำมาใช้จ่ายผ่านโครงการต่างๆ เช่น การพัฒนาแหล่งน้ำ การศึกษา และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จะส่งผล 4 ข้อ ทำให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้ประโยชน์ รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นจากต่างชาติให้กลับมา
ส่วนหนี้สาธารณะที่อาจจะสูงถึงร้อยละ 60 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ เป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องหามาตรการรองรับ เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด และหากเศรษฐกิจดีขึ้น รัฐจะต้องเก็บเงินเข้าคลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
นายสมชาย กล่าวว่า การกู้เงินในครั้งนี้ยังต้องคำนึงถึงเป้าหมาย โดยรัฐบาลต้องตระหนักว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ในเวลานี้มีค่า และคำนึงถึงกระบวนการการดำเนินการในโครงการต่างๆ เพื่อไม่ให้เงินรั่วไหล และต้องมีความโปร่งใสทุกขั้นตอน
ส่วนหนี้สาธารณะที่อาจจะสูงถึงร้อยละ 60 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ เป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องหามาตรการรองรับ เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด และหากเศรษฐกิจดีขึ้น รัฐจะต้องเก็บเงินเข้าคลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
นายสมชาย กล่าวว่า การกู้เงินในครั้งนี้ยังต้องคำนึงถึงเป้าหมาย โดยรัฐบาลต้องตระหนักว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ในเวลานี้มีค่า และคำนึงถึงกระบวนการการดำเนินการในโครงการต่างๆ เพื่อไม่ให้เงินรั่วไหล และต้องมีความโปร่งใสทุกขั้นตอน