นายจิม เวบบ์ (Jim Webb) สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการต่างประเทศด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิค เข้าพบ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังเดินทางกลับจากการเยือนพม่าเมื่อวานนี้ โดยได้หารือในหลายประเด็น ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ กิจกรรมทางการทูตในภูมิภาค โดยประเด็นสำคัญที่มีการหารือคือ สถานการณ์ในพม่า โดยเฉพาะหลังศาลพม่าตัดสินกักบริเวณนางออง ซาน ซู จี ในบ้านเพิ่มอีก 1 ปีครึ่ง
นายเวบบ์ ระบุว่า อาเซียนมีบทบาทสำคัญในระยะเวลาที่ผ่านมาในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพม่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อภูมิภาค แต่ขณะเดียวกันได้ย้ำถึงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปคว่ำบาตรเพิ่มเติม เนื่องจากประเทศคู่ค้ากับพม่าไม่ได้คว่ำบาตรการค้ากับพม่าทุกประเทศ ดังนั้นการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จะยิ่งกลับทำให้พม่าหันเข้าหาจีน และอินเดียมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจะยิ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวพม่า
ด้าน รัฐมนตรีต่างประเทศ ขอบคุณนายเวบบ์ ที่ให้ข้อมูลสถานการณ์ในพม่า และยินดีกับความสัมพันธ์สหรัฐฯ - อาเซียน และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในฐานะประเทศคู่เจรจา
ก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องจากนานาชาติให้จีนเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาในพม่ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีอิทธิพลอย่างสูงสุดต่อพม่า ในฐานะคู่ค้า และผูลงทุนรายใหญ่
นายเวบบ์ ระบุว่า อาเซียนมีบทบาทสำคัญในระยะเวลาที่ผ่านมาในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพม่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อภูมิภาค แต่ขณะเดียวกันได้ย้ำถึงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปคว่ำบาตรเพิ่มเติม เนื่องจากประเทศคู่ค้ากับพม่าไม่ได้คว่ำบาตรการค้ากับพม่าทุกประเทศ ดังนั้นการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จะยิ่งกลับทำให้พม่าหันเข้าหาจีน และอินเดียมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจะยิ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวพม่า
ด้าน รัฐมนตรีต่างประเทศ ขอบคุณนายเวบบ์ ที่ให้ข้อมูลสถานการณ์ในพม่า และยินดีกับความสัมพันธ์สหรัฐฯ - อาเซียน และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในฐานะประเทศคู่เจรจา
ก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องจากนานาชาติให้จีนเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาในพม่ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีอิทธิพลอย่างสูงสุดต่อพม่า ในฐานะคู่ค้า และผูลงทุนรายใหญ่
