นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน กฟน.มีรายได้รวม 69,700 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,600 ล้านบาท หน่วยจำหน่ายไฟฟ้าอยู่ที่ 23,000 ล้านหน่วย และมีสินทรัพย์รวม 134,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 8,500 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่มาจากการลงทุน เพื่อรอบรับความต้องการการใช้ไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายไฟฟ้า และจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง จึงคาดการณ์ว่า กำไรสิทธิเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 4,600 ล้านบาท โดยหน่วยจำหน่ายไฟฟ้าจะลดลงประมาณร้อยละ 4 ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 7,500 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมคาดการณ์ว่า ภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2553 เนื่องจากขณะนี้ได้รับผลกระทบจากภาคการท่องเที่ยว และการส่งออกประสบปัญหา ที่มีผลโดยตรงต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า
นอกจากนี้ กฟน.ยังได้ชะลอก่อสร้างโครงการในหลายโครงการลงด้วย ตามภาวะเศรษฐกิจ ลดต้นทุนการดำเนินการ และหันมาปรับปรุงการพัฒนาระบบไฟฟ้า และการบริการให้มีความมั่นคง มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชน
นอกจากนี้ กฟน.ยังได้ชะลอก่อสร้างโครงการในหลายโครงการลงด้วย ตามภาวะเศรษฐกิจ ลดต้นทุนการดำเนินการ และหันมาปรับปรุงการพัฒนาระบบไฟฟ้า และการบริการให้มีความมั่นคง มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชน
