พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ของสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และคณะ เดินทางไปยังศาลปกครองกลาง เพื่อยื่นคำฟ้องนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ต่อศาลปกครองกลาง กรณีมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 อนุมัติให้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการ เพื่อฟื้นฟูฐานะการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยพลเรือเอกบรรณวิทย์ กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ถือเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลจากการดำเนินการตามมติดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ศาลปกครองกลางพิจารณาไต่สวนเพิ่งถอนมติดังกล่าว และให้คณะรัฐมนตรียุติการจัดตั้งบริษัทลูกทั้ง 2 บริษัท คือ บริษัท เดินรถ จำกัด และบริษัท บริหารทรัพย์สิน พร้อมกลับไปทบทวนใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท. และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจตามกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2550
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวด้วยว่า หลังจากการยื่นคำฟ้องในวันนี้แล้ว หากรัฐบาลยังเดินหน้าที่จะปรับโครงสร้าง รฟท. ต่อไป ทางสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย จะยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว แต่หากรัฐบาลจะเดินหน้าต่ออีก จะฟ้องต่อศาลแพ่งและศาลอาญา ตามมาตรา 157 พร้อมเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลที่เคยประกาศไว้ว่า รฟท. ได้รับความเสียหายจากการหยุดเดินรถครั้งที่ผ่านมาถึง 30 ล้านบาท
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวด้วยว่า หลังจากการยื่นคำฟ้องในวันนี้แล้ว หากรัฐบาลยังเดินหน้าที่จะปรับโครงสร้าง รฟท. ต่อไป ทางสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย จะยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว แต่หากรัฐบาลจะเดินหน้าต่ออีก จะฟ้องต่อศาลแพ่งและศาลอาญา ตามมาตรา 157 พร้อมเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลที่เคยประกาศไว้ว่า รฟท. ได้รับความเสียหายจากการหยุดเดินรถครั้งที่ผ่านมาถึง 30 ล้านบาท