นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลสรุปการศึกษาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ของกระทรวงคมนาคม หลังเรียกหน่วยงานต่างๆ ชี้แจงโดยสรุปว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการผิดกฎหมาย และทำให้รัฐเสียหาย 5 ประเด็น อาทิ การกระทำผิด พ.ร.บ.องค์กร หน่วยงานของรัฐ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร ความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยนำข้อมูลอันเป็นเท็จเสนอต่อผู้บังคับบัญชา ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว เนื่องจากมีการล็อกสเปกบริษัทที่ได้รับการประมูล จึงเสนอให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกโครงการดังกล่าว รวมทั้งให้ศึกษาโครงการนี้อย่างรอบคอบ
อย่างไรก็ตาม นายชาญชัย เห็นว่า คณะกรรมการบริหาร หรือ บอร์ด ขสมก. ที่มีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นประธาน จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คณะกรรมาธิการจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นผู้ชี้มูลความผิด ในฐานะเป็นผู้นำเสนอโครงการดังกล่าวเข้าสู่คณะรัฐมนตรี โดยคณะกรรมาธิการจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้ ป.ป.ช. นายกรัฐมนตรี สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ประกอบการพิจารณา ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตาม นายชาญชัย เห็นว่า คณะกรรมการบริหาร หรือ บอร์ด ขสมก. ที่มีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นประธาน จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คณะกรรมาธิการจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นผู้ชี้มูลความผิด ในฐานะเป็นผู้นำเสนอโครงการดังกล่าวเข้าสู่คณะรัฐมนตรี โดยคณะกรรมาธิการจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้ ป.ป.ช. นายกรัฐมนตรี สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ประกอบการพิจารณา ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้
