ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดีที่ นายทวีเกียรติ วงศ์วิทสง และ น.ส.ดวงกมล อุนศิริ เป็นโจกท์ยื่นฟ้อง ร.ต.อ.ณัฎฐ์ ชลนิธิวณิชย์ อดีตผู้บังคับหมวด 426 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน 42 ช่วยราชการตำรวจตระเวนชายแดน 41 จ.ชุมพร กับพวกรวม 8 คน รวม 6 ข้อหา อาทิ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ การร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และร่วมกันทำร้ายร่างกาย จากกรณีเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2551 จำเลยทั้ง 8 เข้าตรวจค้นห้องพักจำเลย ที่ปาร์คแลนด์ คอนโดมิเนียม ย่านพระราม 6 และยึดยาไอซ์ และเงินสดในกระเป๋าอีก 4,000 บาท ก่อนอุ้มตัวไปข่มขู่ และกักขัง
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบทุกประเด็น เห็นว่าข้อหาทำร้ายร่างกายขัดกับผลพิสูจน์ของแพทย์ จึงรับฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อหาปล้นทรัพย์จำเลยนำสืบคัดค้านว่า โจทก์มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาบ้า และต้องติดต่อกับผู้ค้ายาเสพติดชาวกัมพูชา การเบิกความของโจก์จึงฟังไม่ขึ้น เช่นเดียวกับข้อหาอื่นๆ
ส่วนกรณีกักขังเป็นเวลา 3 วัน ศาลเห็นว่า เป็นการกระทำตามกฎหมายที่จำเลยเป็นชุดปราบปรามยาเสพติดสามารถดำเนินการได้ แต่เป็นความผิดตามมาตรา 149 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน ในข้อหานี้ศาลพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 5 ปี แต่จำเลยให้การเป็นโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง พร้อมยกคำร้องขอคืนเงิน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบทุกประเด็น เห็นว่าข้อหาทำร้ายร่างกายขัดกับผลพิสูจน์ของแพทย์ จึงรับฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อหาปล้นทรัพย์จำเลยนำสืบคัดค้านว่า โจทก์มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาบ้า และต้องติดต่อกับผู้ค้ายาเสพติดชาวกัมพูชา การเบิกความของโจก์จึงฟังไม่ขึ้น เช่นเดียวกับข้อหาอื่นๆ
ส่วนกรณีกักขังเป็นเวลา 3 วัน ศาลเห็นว่า เป็นการกระทำตามกฎหมายที่จำเลยเป็นชุดปราบปรามยาเสพติดสามารถดำเนินการได้ แต่เป็นความผิดตามมาตรา 149 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน ในข้อหานี้ศาลพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 5 ปี แต่จำเลยให้การเป็นโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง พร้อมยกคำร้องขอคืนเงิน