ในงานสัมมนา Thailand Investment Environment Looking Forward ปีที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นโดย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. นายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการรับฟังนโยบายของรัฐบาล ภาคเอกชนก็มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ในปีนี้ เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและมีความเข้มแข็ง
นายดุสิต กล่าวว่า ภาคเอกชนยังมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ว่า จะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างในอดีตหรือไม่ แต่หากจะกลับสู่ภาวะปกติคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะด้านคำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ และยุโรป ที่ขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า การที่รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผ่านการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่จะจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศ การเร่งใช้เม็ดเงินในโครงการต่างๆ เพื่อให้เกิดการจ้างงานนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหากรัฐบาลดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ เพราะเป็นโครงการที่เพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อย ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและส่งผลดีมายังภาคอุตสาหกรรม ให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ตั้งแต่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงในครั้งนี้ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี เริ่มมีปัญหาหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น ดังนั้น ภาครัฐจะต้องเข้ามาช่วยเหลือด้วยการลดต้นทุน เพื่อให้ภาคธุรกิจอยู่ได้ เนื่องจากปัจจุบันผู้ส่งออกแทบไม่มีคำสั่งซื้อ แต่หากมีต้นทุนที่ลดลง ก็จะทำให้ความสามารถแข่งขันได้ โดยต้นทุนที่รัฐบาลจะช่วยได้ คือ การลดค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนสูงที่สุด นอกจากนี้ ยังเห็นว่าโครงการไทยเข้มแข็ง ส่วนใหญ่ที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยกระตุ้นการลงทุนระยะสั้น และเกิดประโยชน์ต่อประเทศ จึงต้องการให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว
นายดุสิต กล่าวว่า ภาคเอกชนยังมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ว่า จะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างในอดีตหรือไม่ แต่หากจะกลับสู่ภาวะปกติคงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะด้านคำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ และยุโรป ที่ขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า การที่รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผ่านการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่จะจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศ การเร่งใช้เม็ดเงินในโครงการต่างๆ เพื่อให้เกิดการจ้างงานนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหากรัฐบาลดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ เพราะเป็นโครงการที่เพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อย ช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและส่งผลดีมายังภาคอุตสาหกรรม ให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ตั้งแต่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงในครั้งนี้ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี เริ่มมีปัญหาหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น ดังนั้น ภาครัฐจะต้องเข้ามาช่วยเหลือด้วยการลดต้นทุน เพื่อให้ภาคธุรกิจอยู่ได้ เนื่องจากปัจจุบันผู้ส่งออกแทบไม่มีคำสั่งซื้อ แต่หากมีต้นทุนที่ลดลง ก็จะทำให้ความสามารถแข่งขันได้ โดยต้นทุนที่รัฐบาลจะช่วยได้ คือ การลดค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนสูงที่สุด นอกจากนี้ ยังเห็นว่าโครงการไทยเข้มแข็ง ส่วนใหญ่ที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยกระตุ้นการลงทุนระยะสั้น และเกิดประโยชน์ต่อประเทศ จึงต้องการให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว
