นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวถึงผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ไทย 10 แห่งในช่วงครึ่งปีแรก ที่มีกำไรสุทธิรวม 29,066.91 ล้านบาท ลดลง 4,402.97 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.16 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีกำไรสุทธิ 33,469.88 ล้านบาท ว่า แม้กำไรของธนาคารพาณิชย์จะลดลง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
นายบัณฑิต กล่าวว่า ผลกำไรที่ลดลงสะท้อนให้เห็นว่าการปล่อยสินเชื่อของธนาคารชะลอตัว ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ลดลงและธนาคารพาณิชย์มีการสำรองความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบอยู่ที่ร้อยละ 15 ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 จากเดือนเมษายน 2552 อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าหากภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น แนวโน้มของการปล่อยสินเชื่อก็จะเพิ่มขึ้น โดยจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยอุปโภคและบริโภค ซึ่งเท่าที่ดูแนวโน้มเศรษฐกิจก็น่าจะดีขึ้น เพราะทิศทางเศรษฐกิจไม่ทรุดตัวลงต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสภาพคล่องที่มีอยู่ในระบบยังมีอยู่สูง
นายบัณฑิต กล่าวว่า ผลกำไรที่ลดลงสะท้อนให้เห็นว่าการปล่อยสินเชื่อของธนาคารชะลอตัว ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ลดลงและธนาคารพาณิชย์มีการสำรองความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบอยู่ที่ร้อยละ 15 ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 จากเดือนเมษายน 2552 อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าหากภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น แนวโน้มของการปล่อยสินเชื่อก็จะเพิ่มขึ้น โดยจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยอุปโภคและบริโภค ซึ่งเท่าที่ดูแนวโน้มเศรษฐกิจก็น่าจะดีขึ้น เพราะทิศทางเศรษฐกิจไม่ทรุดตัวลงต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสภาพคล่องที่มีอยู่ในระบบยังมีอยู่สูง
