นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงหลังการหารือร่วมกันของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยเปิดใจถึงการเดินทางมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งในรอบ 12 ปี ว่ารู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะมีนโยบายการสานสัมพันธ์กับไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน โดยได้หารือกับนายกรัฐมนตรีไทย เรื่องการมีส่วนร่วมเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงในระดับนานาชาติให้มากขึ้น ปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงความมั่นคงในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะกับพม่า ที่ไทยเป็นสื่อกลางที่ดีมาโดยตลอด และมีจุดยืนที่เข้มแข็งในการช่วยพัฒนาประชาธิปไตยของพม่า อย่างไรก็ตาม รู้สึกเป็นห่วงการควบคุมตัวนางออง ซาน ซู จี
สื่อมวลชนไทยยังสอบถามนางคลินตัน เกี่ยวกับข่าวความร่วมมือในการจัดตั้งคุกลับในไทย แต่นางคลินตัน ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงภายในของไทย เพราะเจตนาในการเดินทางมาครั้งนี้ต้องการสานสัมพันธ์ที่ดีมากกว่า อย่างไรก็ตาม นางคลินตัน กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายบารัก โอบามา ดำเนินนโยบายที่ตั้งอยู่ภายใต้หลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันที่จะเดินหน้านโยบายการเจรจากับเกาหลีเหนือ ที่มีการทดลองการใช้ขีปนาวุธและนิวเคลียร์ที่คาบสมุทรเกาหลี แต่เกาหลีเหนือเองก็ต้องแสดงความจริงใจในการหารือด้วย เพราจะไม่มีการหารือนอกรอบ
ด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีที่ต่อเนื่องมาถึง 176 ปีแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยจะมุ่งส่งเสริมและอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการค้า การลงทุน ในต่างประเทศ และยึดมั่นในสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากความระลึกถึงไปยังนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ด้วย
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงประเด็นการพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และระบุว่า จะหารือกันในหลายประเด็น ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ และการพัฒนาความร่วมมือในอนาคต ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคง เพราะมีสัญญาณที่ดีมาจากสหรัฐฯ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังคงย้ำว่า กระแสข่าวการจับกุมผู้ที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศได้ที่ จ.พังงา ซึ่งมีข่าวว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ (เจไอ) นายกรัฐมนตรี ย้ำอย่างหนักแน่นว่า เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น
สื่อมวลชนไทยยังสอบถามนางคลินตัน เกี่ยวกับข่าวความร่วมมือในการจัดตั้งคุกลับในไทย แต่นางคลินตัน ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงภายในของไทย เพราะเจตนาในการเดินทางมาครั้งนี้ต้องการสานสัมพันธ์ที่ดีมากกว่า อย่างไรก็ตาม นางคลินตัน กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายบารัก โอบามา ดำเนินนโยบายที่ตั้งอยู่ภายใต้หลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันที่จะเดินหน้านโยบายการเจรจากับเกาหลีเหนือ ที่มีการทดลองการใช้ขีปนาวุธและนิวเคลียร์ที่คาบสมุทรเกาหลี แต่เกาหลีเหนือเองก็ต้องแสดงความจริงใจในการหารือด้วย เพราจะไม่มีการหารือนอกรอบ
ด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีที่ต่อเนื่องมาถึง 176 ปีแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยจะมุ่งส่งเสริมและอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการค้า การลงทุน ในต่างประเทศ และยึดมั่นในสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากความระลึกถึงไปยังนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ด้วย
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงประเด็นการพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และระบุว่า จะหารือกันในหลายประเด็น ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ และการพัฒนาความร่วมมือในอนาคต ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคง เพราะมีสัญญาณที่ดีมาจากสหรัฐฯ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังคงย้ำว่า กระแสข่าวการจับกุมผู้ที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศได้ที่ จ.พังงา ซึ่งมีข่าวว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ (เจไอ) นายกรัฐมนตรี ย้ำอย่างหนักแน่นว่า เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น