นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ในฐานะประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการนำเข้าเหล็กต้นน้ำมากที่สุดในอาเซียน ซึ่งเคยทำสถิติการนำเข้าสูงถึง 15 ล้านตัน สูงกว่าเวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่มีการน้ำเข้ารองลงมา ที่ 7-8 ล้านตัน โดยในปีนี้ ประเมินว่า ประเทศไทยจะมีความต้องการใช้เหล็ก มากกว่า 10 ล้านตัน และในอนาคตถ้าเศรษฐกิจฟื้นตัว ความต้องการใช้เหล็กจะขยับไปถึง 15 ล้านตัน จึงจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเร่งขับเคลื่อนโครงการเหล็กต้นน้ำ มารองรับความต้องการที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเกิดโครงการเหล็กต้นน้ำในไทย นอกจากจะช่วยทดแทนการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มเสถียรภาพในการแข่งขัน และช่วยรักษาระดับราคาไม่ให้มีความผันผวน
ส่วนทิศทางอุตสาหกรรมเหล็กในช่วงไตรมาส 3 นายพยุงศักดิ์ มองว่า จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากสินค้าคงคลังในแต่ละอุตสาหกรรมต่อเนื่องหมด ประกอบกับราคาเหล็กปรับลดลงต่ำที่สุดแล้ว ทำให้ทุกคนจะพยายามซื้อไปใช้และเก็บในสต๊อก
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเกิดโครงการเหล็กต้นน้ำในไทย นอกจากจะช่วยทดแทนการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มเสถียรภาพในการแข่งขัน และช่วยรักษาระดับราคาไม่ให้มีความผันผวน
ส่วนทิศทางอุตสาหกรรมเหล็กในช่วงไตรมาส 3 นายพยุงศักดิ์ มองว่า จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากสินค้าคงคลังในแต่ละอุตสาหกรรมต่อเนื่องหมด ประกอบกับราคาเหล็กปรับลดลงต่ำที่สุดแล้ว ทำให้ทุกคนจะพยายามซื้อไปใช้และเก็บในสต๊อก
