นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ผลกระทบจากไข้หวัด 2009 ซึ่งจะต่อเนื่องตามฤดูกาลคือ ในหน้าฝนและหน้าหนาว จะมีผลต่อยอดจำหน่ายรถยนต์ได้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินตัวเลขได้อย่างชัดเจน เนื่องจากไข้หวัด 2009 อาจกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวของไทย และจะกระทบต่อรายได้รวมทั้งยอดขายของรถกระบะที่ใช้ในธุรกิจท่องเที่ยวและภาคเกษตร จากปัจจุบันวิกฤตเศรษฐกิจ ก็ทำให้รายได้ประชาชนลดลงอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยอดผลิตรถยนต์ในภาพรวมทั้งปี 2552 คาดว่า จะอยู่ที่ 930,000 คัน ลดลงจากปีก่อนที่ยอดสูงถึง 1.38 ล้านคัน โดยปีนี้คาดว่า จะมียอดขายในประเทศ 450,000 คัน และยอดส่งออก 500,000 คัน โดยในด้านการส่งออกนอกจากจะมีปัญหาเศรษฐกิจโลก ยังกระทบจากแผนกระตุ้นการซื้อรถยนต์ใหม่ของยุโรปและเอเชียบางประเทศ ที่แม้จะกระตุ้นการซื้อรถภายในประเทศ แต่ก็ส่งเสริมให้ซื้อรถเก๋งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงกระทบต่อรถกระบะของไทยโดยตรงต่อ บวกกับไทยยังมีเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอีกด้วย โดยเงินบาทของไทยขณะนี้อยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ล่าสุดยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่เดือนละ 70,000 คัน รวมทั้งปีการใช้กำลังการผลิตจะอยู่ที่ร้อยละ 50 เท่านั้น โดยกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,800,000 คัน แต่ผลิตได้เพียง 900,000 คันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปี 2553 ในช่วงต้นปีที่เป็นช่วงการแนะนำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด น่าจะทำให้ยอดขายดีขึ้น โดยอาจเห็นอีโคคาร์ยางรายออกมาแนะนำตัวสู่ตลาดได้ รวมทั้งเชื่อว่า ยอดผลิตรถยนต์ตลอดปีจะอยู่ที่ 1 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยอดผลิตรถยนต์ในภาพรวมทั้งปี 2552 คาดว่า จะอยู่ที่ 930,000 คัน ลดลงจากปีก่อนที่ยอดสูงถึง 1.38 ล้านคัน โดยปีนี้คาดว่า จะมียอดขายในประเทศ 450,000 คัน และยอดส่งออก 500,000 คัน โดยในด้านการส่งออกนอกจากจะมีปัญหาเศรษฐกิจโลก ยังกระทบจากแผนกระตุ้นการซื้อรถยนต์ใหม่ของยุโรปและเอเชียบางประเทศ ที่แม้จะกระตุ้นการซื้อรถภายในประเทศ แต่ก็ส่งเสริมให้ซื้อรถเก๋งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงกระทบต่อรถกระบะของไทยโดยตรงต่อ บวกกับไทยยังมีเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอีกด้วย โดยเงินบาทของไทยขณะนี้อยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ล่าสุดยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่เดือนละ 70,000 คัน รวมทั้งปีการใช้กำลังการผลิตจะอยู่ที่ร้อยละ 50 เท่านั้น โดยกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,800,000 คัน แต่ผลิตได้เพียง 900,000 คันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปี 2553 ในช่วงต้นปีที่เป็นช่วงการแนะนำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด น่าจะทำให้ยอดขายดีขึ้น โดยอาจเห็นอีโคคาร์ยางรายออกมาแนะนำตัวสู่ตลาดได้ รวมทั้งเชื่อว่า ยอดผลิตรถยนต์ตลอดปีจะอยู่ที่ 1 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10
