นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการฉันรักประเทศไทย ว่า เนื่องจากความเชื่อมั่นด้านภาพลักษณ์ของประเทศ ช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามารับหน้าที่รัฐบาล ต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ของประเทศบอบช้ำพอสมควร มีปัญหาความขัดแย้ง ความรุนแรง การประท้วง ทำให้ชาวโลกที่ติดตามข่าวประเทศไทยในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า ประเทศไทยไม่ค่อยมีในทางที่ดี ทั้งนี้ยอมรับว่า ช่วงเดือนเมษายน เหตุการณ์ที่พัทยาเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์เข้าไปอีก จึงคิดว่าถึงเวลาที่คนไทยต้องรวมพลังกัน ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง เพื่อทำให้ชาวโลกหันกลับมามองประเทศไทยว่าเป็นเมืองยิ้ม เป็นเมืองที่มีสิทธิเสรีภาพ และมีโอกาสในการลงทุน นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าหากเราสามารถกระตุ้นให้ทุกคนคิดถึงส่วนรวม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ตื่นตัวเป็นพลเมืองที่ดี คิดถึงประเทศ ปัญหาสังคมอื่นๆ จะแก้ไขได้ง่ายขึ้น ทั้งปัญหายาเสพติด ปัญหาทางเพศ หรือปัญหาความรุนแรง
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน กล่าวว่า กิจกรรมที่มีการรณรงค์ คือ ดึงการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งเด็กนักเรียนสามารถมีส่วนช่วยได้ โดยตั้งใจเรียน ไม่ทะเลาะกัน เกษตรกรสามารถช่วยในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต รวมทั้งคนไทยในต่างประเทศ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ที่สัมผัสกับชาวต่างชาติโดยตรง โดยสามารถเข้าร่วมส่งความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผ่านทางเว็บไซต์ www.ilovethailand.org ได้
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าบทบาทของสื่อมวลชน รวมทั้งนักแสดง มีส่วนสำคัญที่จะสะท้อนความรู้สึกของคนในชาติ เพื่อช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ทีดีของประเทศให้ต่างชาติได้เห็น
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน กล่าวว่า กิจกรรมที่มีการรณรงค์ คือ ดึงการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งเด็กนักเรียนสามารถมีส่วนช่วยได้ โดยตั้งใจเรียน ไม่ทะเลาะกัน เกษตรกรสามารถช่วยในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต รวมทั้งคนไทยในต่างประเทศ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ที่สัมผัสกับชาวต่างชาติโดยตรง โดยสามารถเข้าร่วมส่งความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผ่านทางเว็บไซต์ www.ilovethailand.org ได้
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าบทบาทของสื่อมวลชน รวมทั้งนักแสดง มีส่วนสำคัญที่จะสะท้อนความรู้สึกของคนในชาติ เพื่อช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ทีดีของประเทศให้ต่างชาติได้เห็น
