นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางการแก้ไขปัญหาภาคใต้ระยะต่อไปของรัฐบาล" โดยชี้แจงว่า ปัญหาภาคใต้เกิดจากรากฐานทางสังคมที่สะสมมายาวนาน และไม่สามารถวางกรอบเวลาในการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จได้ เนื่องจากเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบในทางปฏิบัติ และหลายปัจจัย ต้องประคับประคองเดินหน้าแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กันอย่างสมดุล
สำหรับแนวทางการเมืองนำการทหารนั้น มีการย้ำว่า ยังต้องให้ความสำคัญกับฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะการสร้างความมั่นคงด้านความปลอดภัย ซึ่งฝ่ายปฏิบัติเข้าใจดีว่า ยังคงจำเป็นในการใช้กำลังพล 60,000 นาย แม้จะเน้นการพัฒนา และทุ่มงบประมาณเพื่อเป้าหมายยกระดับรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษาของคนในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี ยังได้หยิบยกเหตุการณ์ยิงมัสยิดอัลฟุรกอน คือการทดสอบบทบาทการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ยอมรับว่า การทำงานในพื้นที่ยังไม่เป็นเอกภาพ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีผลบังคับใช้แทนกฎหมายพิเศษในพื้นที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่า เป้าหมายของการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป้าหมายของรัฐบาลสอดคล้องกับแนวทางการเสนอของวงเสวนาในวันนี้
สำหรับแนวทางการเมืองนำการทหารนั้น มีการย้ำว่า ยังต้องให้ความสำคัญกับฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะการสร้างความมั่นคงด้านความปลอดภัย ซึ่งฝ่ายปฏิบัติเข้าใจดีว่า ยังคงจำเป็นในการใช้กำลังพล 60,000 นาย แม้จะเน้นการพัฒนา และทุ่มงบประมาณเพื่อเป้าหมายยกระดับรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษาของคนในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี ยังได้หยิบยกเหตุการณ์ยิงมัสยิดอัลฟุรกอน คือการทดสอบบทบาทการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ยอมรับว่า การทำงานในพื้นที่ยังไม่เป็นเอกภาพ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีผลบังคับใช้แทนกฎหมายพิเศษในพื้นที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่า เป้าหมายของการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป้าหมายของรัฐบาลสอดคล้องกับแนวทางการเสนอของวงเสวนาในวันนี้