นายนรชิต สิงหเสนี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทย ประจำสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก เปิดเผยภายหลังมอบเงินและสิ่งของมูลค่ากว่า 300,000 บาท ให้กับกองทัพนำไปช่วยเหลือกำลังพลและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ว่า กระทรวงการต่างประเทศมีความปราถนาดี และเห็นความสำคัญของทหารในพื้นที่ จึงรวบรวมเงินและสิ่งของจากข้าราชการกระทรวง ทั้งในและต่างประเทศมามอบให้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
นายนรชิต ระบุถึงสถานการณ์ชายแดนปราสาทพระวิหารว่า นานาชาติมีความเข้าใจว่า เป็นประเด็นทางการเมือง และอธิปไตย ที่ทั้งไทยและกัมพูชาจะดำเนินการแก้ไขกันเอง โดยประเด็นปราสาทพระวิหารยังไม่ได้บรรจุในระเบียบวาระของสหประชาชาติ หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ทั้งนี้สหประชาชาติมีความเป็นห่วงและกังวลต่อสถานการณ์การตรึงกำลังของทหารทั้ง 2 ประเทศ และหากมีการปรับกำลังลงก็เป็นเรื่องน่ายินดี
ขณะที่ทูตของไทยทุกคนมีหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจว่า ไทยไม่ได้มีแนวความคิดจะไปรุกล้ำอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการดำเนินการของกัมพูชา เพื่อยื่นแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารต้องไม่กระทบพื้นที่เขตทับซ้อน ซึ่งหากแผนดังกล่าวกระทบดินแดนของไทย ก็คงเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ พร้อมเห็นว่า หากมีการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันก็เป็นสิ่งที่ดี
นายนรชิต ระบุถึงสถานการณ์ชายแดนปราสาทพระวิหารว่า นานาชาติมีความเข้าใจว่า เป็นประเด็นทางการเมือง และอธิปไตย ที่ทั้งไทยและกัมพูชาจะดำเนินการแก้ไขกันเอง โดยประเด็นปราสาทพระวิหารยังไม่ได้บรรจุในระเบียบวาระของสหประชาชาติ หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ทั้งนี้สหประชาชาติมีความเป็นห่วงและกังวลต่อสถานการณ์การตรึงกำลังของทหารทั้ง 2 ประเทศ และหากมีการปรับกำลังลงก็เป็นเรื่องน่ายินดี
ขณะที่ทูตของไทยทุกคนมีหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจว่า ไทยไม่ได้มีแนวความคิดจะไปรุกล้ำอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการดำเนินการของกัมพูชา เพื่อยื่นแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารต้องไม่กระทบพื้นที่เขตทับซ้อน ซึ่งหากแผนดังกล่าวกระทบดินแดนของไทย ก็คงเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ พร้อมเห็นว่า หากมีการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันก็เป็นสิ่งที่ดี