นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง หลังจากประชาชนแสดงความสนใจต้องการจองซื้อพันธบัตรจำนวนมาก จึงได้เพิ่มวงเงินจาก 30,000 ล้านบาท เป็น 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเปิดจำหน่ายให้คนชราที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จากเดิมกำหนดไว้ 55 ปี จองในช่วง 3 วันแรกนับจากวันที่ 14 กรกฎาคม หลังจากนั้นจะให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อ ซึ่งพันธบัตรดังกล่าวมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี ร้อยละ 3.8 ตั้งแต่ปีแรกถึงปีที่ 5 เริ่มจากร้อยละ 3-5 ขณะเดียวกันที่ประชุมได้สอบถามถึงองค์กรการกุศลที่ต้องการซื้อพันธบัตร เช่น วัด ศาสนสถาน กระทรวงการคลังจึงนำกลับไปพิจารณาประเภทบุคคลที่จะซื้อ โดยจะนำแผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งทั้งหมดเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า นายกรณ์ ยังแจ้งในคณะรัฐมนตรีว่า หลังจาก พ.ร.ก.ขยายเพดานภาษีสรรพสามิตน้ำมันไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา จะต้องนำร่างกฎหมายดังกล่าวเสนอสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาอีกครั้งในการประชุมสมัยสามัญ โดยต้องการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าการยกมือลงมติห้ามรัฐมนตรีลงคะแนนในกรณีใดบ้าง เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อการลงคะแนนร่างกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเปิดจำหน่ายให้คนชราที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จากเดิมกำหนดไว้ 55 ปี จองในช่วง 3 วันแรกนับจากวันที่ 14 กรกฎาคม หลังจากนั้นจะให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อ ซึ่งพันธบัตรดังกล่าวมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี ร้อยละ 3.8 ตั้งแต่ปีแรกถึงปีที่ 5 เริ่มจากร้อยละ 3-5 ขณะเดียวกันที่ประชุมได้สอบถามถึงองค์กรการกุศลที่ต้องการซื้อพันธบัตร เช่น วัด ศาสนสถาน กระทรวงการคลังจึงนำกลับไปพิจารณาประเภทบุคคลที่จะซื้อ โดยจะนำแผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งทั้งหมดเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า นายกรณ์ ยังแจ้งในคณะรัฐมนตรีว่า หลังจาก พ.ร.ก.ขยายเพดานภาษีสรรพสามิตน้ำมันไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา จะต้องนำร่างกฎหมายดังกล่าวเสนอสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาอีกครั้งในการประชุมสมัยสามัญ โดยต้องการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าการยกมือลงมติห้ามรัฐมนตรีลงคะแนนในกรณีใดบ้าง เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อการลงคะแนนร่างกฎหมายดังกล่าว