แผนการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ที่จะออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินทุนเป็นครั้งแรก กำลังได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากพวกประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ ที่กำลังมองหาหนทางกระจายการลงทุนของตนให้มากกว่าการซื้อหลักทรัพย์หรือถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯเอาไว้ เพราะหวั่นเกรงว่าสินทรัพย์เหล่านั้นจะมีราคาลดลงจากยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯที่ทะยานขึ้นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ในการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 ที่กรุงลอนดอนเมื่อต้นเดือนเมษายน บรรดาประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู ต่างได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มเงินทุนให้แก่ไอเอ็มเอฟอีก 500,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่แต่ละประเทศจะต้องกลับไปคิดว่าจะส่งเม็ดเงินไปให้ไอเอ็มเอฟอย่างไร
เพื่อช่วยให้สามารถรวบรวมเงินทุนจำนวนมหาศาลได้กล่าว ไอเอ็มเอฟก็ได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เคยกระทำมาก่อนเลย นั่นคือการออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินจากพวกประเทศสมาชิก
"เจ้าหน้าที่ของไอเอ็มเอฟจะนำเสนอเอกสารต่างๆ ที่จำเป็น ต่อทางคณะกรรมการบริหารของกองทุน เพื่อเปิดทางให้มีการออกพันธบัตรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" โดมินิก สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการของไอเอ็มเอฟกล่าวไว้เมื่อวันพุธ (10)
ประเทศที่แสดงท่าทีว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรของไอเอ็มเอฟในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ รัสเซีย จีนและบราซิล สองประเทศแรกบอกว่าจะซื้อในมูลค่ารายละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนจีนมีเป้าหมายที่ 50,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว
ก่อนหน้านี้ในการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 ที่กรุงลอนดอนเมื่อต้นเดือนเมษายน บรรดาประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู ต่างได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มเงินทุนให้แก่ไอเอ็มเอฟอีก 500,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่แต่ละประเทศจะต้องกลับไปคิดว่าจะส่งเม็ดเงินไปให้ไอเอ็มเอฟอย่างไร
เพื่อช่วยให้สามารถรวบรวมเงินทุนจำนวนมหาศาลได้กล่าว ไอเอ็มเอฟก็ได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เคยกระทำมาก่อนเลย นั่นคือการออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินจากพวกประเทศสมาชิก
"เจ้าหน้าที่ของไอเอ็มเอฟจะนำเสนอเอกสารต่างๆ ที่จำเป็น ต่อทางคณะกรรมการบริหารของกองทุน เพื่อเปิดทางให้มีการออกพันธบัตรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" โดมินิก สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการของไอเอ็มเอฟกล่าวไว้เมื่อวันพุธ (10)
ประเทศที่แสดงท่าทีว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรของไอเอ็มเอฟในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ รัสเซีย จีนและบราซิล สองประเทศแรกบอกว่าจะซื้อในมูลค่ารายละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนจีนมีเป้าหมายที่ 50,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว