นายชลิต ดำรงค์ศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวในโอกาสที่กรมชลประทานครบรอบ 107 ปี ในวันนี้ว่า เป้าหมายหลักที่กรมจะดำเนินคือ การเร่งรัดการฟื้นฟู บูรณะการแหล่งน้ำขนาดเล็กที่มีศักยภาพ สามารถพัฒนาเป็นพื้นที่ชลประทาน ไปพร้อมกับแหล่งน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ทั่วประเทศในระยะเวลา 3 ปี (2552-2554) รวมทั้งจะเพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานเดิม และขยายพื้นที่ชลประทานใหม่ได้กว่า 6 ล้านไร่ ภายในปี 2563 จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณกว่า 28 ล้านไร่
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันประเทศไทยสามารถเก็บน้ำจากฝนที่ตกในฤดู เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้ประมาณ 52,741 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ขณะที่ความต้องการใช้น้ำทั้งปีสูงถึง 73,788 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 70 ของความต้องการน้ำ และยังมีปริมาณขาดแคลนน้ำอยู่ประมาณกว่า 2 หมื่นลูกบาศก์เมตรต่อปี
ทั้งนี้ หากไม่มีการลงทุนพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่ม คาดว่าภายในปี 2559 ประเทศไทยจะขาดแคลนน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 34,183 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีซึ่งอาจจะเกิดภาวะวิกฤตขาดแคลนน้ำได้
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันประเทศไทยสามารถเก็บน้ำจากฝนที่ตกในฤดู เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้ประมาณ 52,741 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ขณะที่ความต้องการใช้น้ำทั้งปีสูงถึง 73,788 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 70 ของความต้องการน้ำ และยังมีปริมาณขาดแคลนน้ำอยู่ประมาณกว่า 2 หมื่นลูกบาศก์เมตรต่อปี
ทั้งนี้ หากไม่มีการลงทุนพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่ม คาดว่าภายในปี 2559 ประเทศไทยจะขาดแคลนน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 34,183 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีซึ่งอาจจะเกิดภาวะวิกฤตขาดแคลนน้ำได้
