นายธนกร สมบูรณ์ชัย และนายพงษ์พันธุ์ ศุภรัศมี ซึ่งถูกซัดทอดว่า เป็นผู้จ้างวานให้ฆ่า นายธนายศ ปทุมวาสนา พร้อมครอบครัวและคนรับใช้ รวม 5 คน ที่บ้านพักย่านลาดพร้าว ถูกตำรวจกองปราบควบคุมตัววันนี้ (12 มิ.ย.)
ตำรวจเปิดเผยว่า หนึ่งในผู้ต้องหา 4 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ จำหน้านายพงษ์พันธุ์ได้ โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พยายามเข้าไปภายในบ้านของนายธนายศ เพื่อขโมยโฉนดที่ดิน แต่ไฟฟ้าดับ ทำให้ทำงานไม่สำเร็จ โดยนายพงษ์พันธุ์ ซึ่งขับรถไปรอรับเพื่อพาหนี มอบเงินให้ 1,000 บาท ต่อมาวันที่ 4 เมษายน ผู้ต้องหาทั้งสี่จึงกลับไปที่บ้านของครอบครัวปทุมวาสนาอีกครั้ง และฆ่าคนในครอบครัวเสียชีวิตทั้ง 5 คน
หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับวันนี้ ยังให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่า รู้จักกับนางกนกกาญจน์ โพธิ์ทอง ภรรยา ของนายธนายศ เพราะทำธุรกิจร่วม และยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้ง และไม่รู้จักผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้
ตำรวจชุดสอบสวน เปิดเผยว่า แม้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานที่เชื่อมโยงยืนยันได้ว่า นายธนกร กับนายพงษ์พันธุ์ ร่วมกับผู้ต้องหา 4 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ก่อเหตุในคดีนี้ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า นางกนกกาญจน์ทำธุรกิจโรงงานผลิตยาสระผมส่งขายต่างประเทศร่วมกับนายธนกร โดยมีนายพงษ์พันธุ์เป็นผู้จัดการโรงงาน และได้โอนเงินประมาณ 10 ล้านบาทให้นายธนกร แต่เมื่อผ่านไป 1 ปี ธุรกิจไม่คืบหน้า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตจึงนำสูตรมาผลิตเอง ทำให้นายธนกรและนายพงษ์พันธุ์ ไม่พอใจ
ตำรวจเปิดเผยว่า หนึ่งในผู้ต้องหา 4 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ จำหน้านายพงษ์พันธุ์ได้ โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พยายามเข้าไปภายในบ้านของนายธนายศ เพื่อขโมยโฉนดที่ดิน แต่ไฟฟ้าดับ ทำให้ทำงานไม่สำเร็จ โดยนายพงษ์พันธุ์ ซึ่งขับรถไปรอรับเพื่อพาหนี มอบเงินให้ 1,000 บาท ต่อมาวันที่ 4 เมษายน ผู้ต้องหาทั้งสี่จึงกลับไปที่บ้านของครอบครัวปทุมวาสนาอีกครั้ง และฆ่าคนในครอบครัวเสียชีวิตทั้ง 5 คน
หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับวันนี้ ยังให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่า รู้จักกับนางกนกกาญจน์ โพธิ์ทอง ภรรยา ของนายธนายศ เพราะทำธุรกิจร่วม และยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้ง และไม่รู้จักผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้
ตำรวจชุดสอบสวน เปิดเผยว่า แม้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานที่เชื่อมโยงยืนยันได้ว่า นายธนกร กับนายพงษ์พันธุ์ ร่วมกับผู้ต้องหา 4 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ก่อเหตุในคดีนี้ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า นางกนกกาญจน์ทำธุรกิจโรงงานผลิตยาสระผมส่งขายต่างประเทศร่วมกับนายธนกร โดยมีนายพงษ์พันธุ์เป็นผู้จัดการโรงงาน และได้โอนเงินประมาณ 10 ล้านบาทให้นายธนกร แต่เมื่อผ่านไป 1 ปี ธุรกิจไม่คืบหน้า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตจึงนำสูตรมาผลิตเอง ทำให้นายธนกรและนายพงษ์พันธุ์ ไม่พอใจ