ยิงดับหนุ่มใหญ่เจ้าของโรงงานเฟอนิเจอร์ ทิ้งศพอืดคาบ้าน คนรับใช้ถูกเชือกไนล่อนผูกติดกับประตูห้องน้ำ เมียถูกฆ่าทิ้งศพหน้าห้องนอนชั้นล่าง ลูกชายนอนอืดในห้องนอนชั้นบน ส่วนลูกสาว มือถูกพันธนาการด้วยเทปกาว เท้าถูกพันด้วยสายรัดผ้าม่าน ก่อนจ่อยิงจากด้านหลังอย่างโหดเหี้ยม ก่อนรื้อค้นทรัพย์สิน ขับรถอัลพาร์ด จอดทิ้งแม่กลอง ตำรวจยังมึนจับมือใครดมไม่ได้ สั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เร่งล่าฆาตกรโหด
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (11 เม.ย.) พ.ต.ท.สมเกียรติ ทองใบใหญ่ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุฆ่าล้างครัว ภายในบ้านเลขที่ 5388 ซอยโพธิ์แก้ว 3 แยก 23 ถนนนวมินทร์ 111 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หน.ศสส.บช.น. พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สืบสวน บก.น.4 พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ลาดพร้าว และกก.สืบสวน บก.น.4 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นคฤหาสน์หรูสไตล์ยุโรป ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด จากการตรวจสอบภายในบ้านพบร่องรอยการรื้อคนทรัพย์สินจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ศพ รายแรกนายธนยศ ปทุมวาสนา อายุ 52 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในห้องครัวชั้นล่าง ในสภาพนอนหงายขึ้นอืด สวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อต นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีดำ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายทะลุหัวใจ จำนวน 1 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน
ถัดไปที่บริเวณหน้าประตูห้องนอนชั้นล่าง เจ้าหน้าที่พบศพนางกนกกาญจน์ โพธิ์ทอง อายุ 48 ปี ภรรยานายธนยศ สภาพนอนคว่ำหน้าขึ้นอืดเช่นเดียวกัน สวมเสื้อยืดสีชมพู นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลนอกจากนี้ที่บริเวณประตูห้องน้ำชั้นล่างด้านหลังบ้าน ยังพบศพนางสำรอง บัวแก้ว อายุ 47 ปี สาวใช้ภายในบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นลายการ์ตูน ถูกคนร้ายใช้เชือกไนล่อนผู้คอติดอยู่กับลูกบิดประตูห้องน้ำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปตรวจสอบภายในห้องนอนชั้นที่ 2 ก็พบศพนายธนวัฒน์ หรือ กอล์ฟ ปทุมวาสนา อายุ 15 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ที่พื้นห้อง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ตามร่างกายไม่พบบาดแผล ส่วนภายในห้องนอนใกล้กันเจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.ศศิมา หรือเกรซ ปทุมวาสนา อายุ 17 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นห้อง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ ถูกคนร้ายใช้เทปกาวสีฟ้าพันที่ใบหน้า และที่ข้อเท้าถูกสายรัดผ้าม่านพันไว้ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่กลางหลัง
จากการสอบสวนนายกฤษฎา หว่างพันธ์ อายุ 45 ปี พี่เขยของนางกนกกาญจน์ ให้การว่า นายธนยศ ทำธุรกิจเปิดโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ชื่อ เอสพีซีเฟอร์นิเจอร์ อยู่ในซอยไม่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุนัก นอกจากนี้ยังรับตกแต่งภายใน ตามห้างต่างๆ ในเครือเซ็นทรัล ตกแต่งร้านค้าต่าง ๆ ในห้าง เช่นไนกี้ สตาร์บัค โอ ปอง แปง นอกจากนี้ยังทำธุรกิจค้าขายที่ดิน และทำรีสอร์ท โดยเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้พบนายธนยศ กับนางกนกกาญจน์ ที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์เป็นครั้งสุดท้าย กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ตนกลับออกจากโรงงานไปและไม่พบและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย โดยหลังจากวันนั้น ตนก็ไปกดกริ่งหน้าบ้านก็ไม่มีใครออกมาเปิด และก็ไม่พบว่ามีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน ชณ-8535 กทม.จอดอยู่ จึงคิดว่าไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า กระทั่งวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ทั้ง 2 คน ต้องเข้าไปจ่ายเงินให้กับลูกน้องภายในโรงงาน แต่ก็ไม่ได้เข้ามาแต่อย่างใด ตนจึงเข้าไปที่โรงงานก็พบแฟ็กซ์ของ จส.100 แจ้งว่าพบรถตู้ของผู้ตาย จอดอยู่ที่บริเวณหน้าวัดป้อมแก้ว จ.สมุทรสงคราม โดยที่กุญแจรถยังเสียบอยู่ แต่รถน้ำมันหมด ตนจึงโทรศัพท์ไปบอก นายธวัช โพธิ์ทอง อายุ 49 ปี พี่ชายของนางกนกกาญจน์ ให้ไปตรวจรถคันดังกล่าว โดยนายธวัชก็ยืนยันว่า เป็นรถของผู้ตายจริง ตนเลยเข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบที่บ้านทันที แต่ก็ไม่มีใครอยู่จึงตัดสินใจปีนประตูเข้าไปภายใน ก็พบว่าประตูไม่ได้ถูกล็อค และมีกลิ่มเหม็นโชยอย่างรุนแรง เมื่อเดินตรวจดุรอบ ๆ บ้านก็พบนายธนยศ นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้านที่ห้องครัว เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบก็พบจึงได้เข้าไปตรวจสอบก็พบศพทั้งหมดดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายได้ขโมยเอาซีพียูคอมพิวเตอร์ ของผู้ตายจำนวน 2 ตัว และพระเครื่องพระพุทธบูชาบางส่วนไป นอกจากนี้ยังพบทรัพย์สินของผู้ตายถูกคนร้ายเก็บในกระเป๋าวางไว้ แต่ยังไม่ได้เอาไป เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน แต่บอกไม่ได้ว่ามีเท่าไร ส่วนสาเหตุของการสังหารโหดยกครัวในครั้งนี้ น่าจะมาจากเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องฆ่าชิงทรัพย์ ส่วนเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจนั้น จากการสอบถามญาติผู้ตายก็ยังไม่พบว่ามีความขัดแย้งกับใคร เรื่องการค้าขายที่ดินก็ยังไม่พบว่ามีปัญหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนญาติผู้ตายเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง