นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า บีโอไอ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ติดตามการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่จะย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทย โดยเฉพาะการหาแหล่งเงินทุนในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันมีความยากลำบากที่จะนำเงินทุนจากบริษัทแม่ในต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยโดยตรง ซึ่งแหล่งเงินทุนที่จะให้สินเชื่อ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการให้สินเชื่อจะเท่าเทียมกับนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนอยู่ในไทยแล้วไม่ได้ให้สิทธิพิเศษเหนือกว่านักลงทุนอื่นแต่อย่างใด
นางอรรชกา กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการบีโอไอ ได้มีมติส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ในประเทศ เพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของต่างชาติ เนื่องจากขณะนี้หลายค่ายรถยนต์อยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง จึงเป็นไปได้ที่จะย้ายฐานการผลิตรถยนต์นั่งเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้น เงื่อนไขการเปิดรับส่งเสริมการลงทุนจึงจำกัดเวลาต้องภายในสิ้นปี 2553 ซึ่งคาดว่าจะมี 1-2 ค่ายรถยนต์จะย้ายฐานผลิตมาไทยด้วยขนาดเม็ดเงินลงทุนอย่างน้อยตามเงื่อนไขที่บีโอไอกำหนด 10,000-15,000 ล้านบาทต่อโครงการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้บีโอไอดูแลหาแหล่งเงินทุน โดยขณะนี้คาดว่าน่าจะเป็นค่ายรถยนต์จากกลุ่มประเทศตะวันตก นอกจากนี้ ยังมีค่ายญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยอยู่แล้วอาจพิจารณาขยายกำลังการผลิตให้ใหญ่มากขึ้น และหากมีการย้ายฐานการผลิตจริงจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย จึงหวังว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยจะฉวยโอกาสนี้ไว้
นางอรรชกา กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการบีโอไอ ได้มีมติส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ในประเทศ เพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของต่างชาติ เนื่องจากขณะนี้หลายค่ายรถยนต์อยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง จึงเป็นไปได้ที่จะย้ายฐานการผลิตรถยนต์นั่งเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้น เงื่อนไขการเปิดรับส่งเสริมการลงทุนจึงจำกัดเวลาต้องภายในสิ้นปี 2553 ซึ่งคาดว่าจะมี 1-2 ค่ายรถยนต์จะย้ายฐานผลิตมาไทยด้วยขนาดเม็ดเงินลงทุนอย่างน้อยตามเงื่อนไขที่บีโอไอกำหนด 10,000-15,000 ล้านบาทต่อโครงการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้บีโอไอดูแลหาแหล่งเงินทุน โดยขณะนี้คาดว่าน่าจะเป็นค่ายรถยนต์จากกลุ่มประเทศตะวันตก นอกจากนี้ ยังมีค่ายญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยอยู่แล้วอาจพิจารณาขยายกำลังการผลิตให้ใหญ่มากขึ้น และหากมีการย้ายฐานการผลิตจริงจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย จึงหวังว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยจะฉวยโอกาสนี้ไว้