บริษัทผลิตอาวุธต่างเบนเข็มมาแข่งขันทำโครงการขนาดเล็กให้รัฐบาลสหรัฐฯ แทนการทำ"เมกะโปรเจกต์"หลังเจอพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนทำให้อาวุธระดับพันล้านขายไม่ออก ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมหั่นงบป้องกันประเทศปี2010ลงอีก3.5เปอร์เซ็นต์
วอลเตอร์ เจมส์ แม็คเนอร์นีย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นบริษัทที่รับสัมปทานผลิตชิ้นส่วนยานอวกาศ รวมทั้งเทคโนโลยีป้องกันประเทศอันดับ2ของโลกให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่ในชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ โดยยอมรับว่าบริษัทผลิตอาวุธและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศหลายแห่งรวมทั้งโบอิ้ง ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างรุนแรง หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯหันไปทุ่มงบแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้นและลดความสำคัญของการเสริมเขี้ยวเล็บให้กองทัพลง
แม็คเนอร์นีย์ระบุว่าคงเป็นไปได้ยากที่โบอิ้งจะทำรายได้ถึง60.91พันล้านดอลลาร์ เหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากโครงการอาวุธระดับ "เมกะโปรเจกต์" ที่ต้องใช้งบประมาณเกิน1,000ล้านดอลลาร์ขึ้นไปถูกประธานาธิบดีบารัค โอบามาสั่งชะลอไว้ทั้งหมด ทำให้โบอิ้งและบริษัทผลิตอาวุธทั้งหลายต้องดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการแย่งกันทำโครงการทางทหารที่ใช้งบต่ำระดับ 100-1,000ล้านดอลลาร์แทนเพื่อประคองตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
พอล ไวส์บริช ผู้บริหารอาวุโสแห่งแม็คแกลเดรย์ แคปิตอล ในคอสตา เมซาที่แคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ประธานาธิบดีโอบามายืนยันจะไม่เพิ่มการลงทุนด้านเครื่องบินรบ รถถังหุ้มเกราะ รวมทั้งเทคโนโลยีไฮเทคในการทำสงครามในช่วงนี้ และมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่อต่อต้านภัยคุกคามในโลกไซเบอร์และเทคโนโลยีด้านข่าวกรองแทน
วอลเตอร์ เจมส์ แม็คเนอร์นีย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นบริษัทที่รับสัมปทานผลิตชิ้นส่วนยานอวกาศ รวมทั้งเทคโนโลยีป้องกันประเทศอันดับ2ของโลกให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่ในชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ โดยยอมรับว่าบริษัทผลิตอาวุธและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศหลายแห่งรวมทั้งโบอิ้ง ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างรุนแรง หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯหันไปทุ่มงบแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้นและลดความสำคัญของการเสริมเขี้ยวเล็บให้กองทัพลง
แม็คเนอร์นีย์ระบุว่าคงเป็นไปได้ยากที่โบอิ้งจะทำรายได้ถึง60.91พันล้านดอลลาร์ เหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากโครงการอาวุธระดับ "เมกะโปรเจกต์" ที่ต้องใช้งบประมาณเกิน1,000ล้านดอลลาร์ขึ้นไปถูกประธานาธิบดีบารัค โอบามาสั่งชะลอไว้ทั้งหมด ทำให้โบอิ้งและบริษัทผลิตอาวุธทั้งหลายต้องดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการแย่งกันทำโครงการทางทหารที่ใช้งบต่ำระดับ 100-1,000ล้านดอลลาร์แทนเพื่อประคองตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
พอล ไวส์บริช ผู้บริหารอาวุโสแห่งแม็คแกลเดรย์ แคปิตอล ในคอสตา เมซาที่แคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ประธานาธิบดีโอบามายืนยันจะไม่เพิ่มการลงทุนด้านเครื่องบินรบ รถถังหุ้มเกราะ รวมทั้งเทคโนโลยีไฮเทคในการทำสงครามในช่วงนี้ และมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่อต่อต้านภัยคุกคามในโลกไซเบอร์และเทคโนโลยีด้านข่าวกรองแทน