นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ประจำจังหวัด โดยยอมรับว่า กรณีมีข่าวบางจังหวัดที่ได้รับจัดสรรโควต้ารับจำนำข้าว จนเต็มโควต้านั้น เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง โดยจังหวัดที่มีปัญหาอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ 3 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา สำหรับสาเหตุที่รับจำนำข้าวนาปรังเต็มโควต้าเร็ว นางพรทิวา กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชี้แจงว่า มีการรับฝากข้าวไว้ก่อนเปิดโครงการรับจำนำ ซึ่งปริมาณที่รับฝากมีมากกว่าโควต้ารับจำนำที่จังหวัดได้รับการจัดสรร อย่างไรก็ตาม จากการติดตามการรับจำนำเบื้องต้นได้มีการเปิดรับจำนำแล้วใน 19 จังหวัด และวันนี้ เชื่อว่าจะสามารถเปิดรับจำนำข้าวได้ถึง 30 จังหวัด จากทั้งหมด 47 จังหวัด โดยพบว่า บางจังหวัดสามารถบริหารจัดการรับจำนำได้ดี เช่น จ.เพชรบุรี ซึ่งมีการจัดระบบรับจำนำ การให้บัตรคิวแก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวชมผู้ว่าราชการจังหวัดและ กขช.ประจำจังหวัดไปแล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเข้มงวดและออกสุ่มตรวจการรับจำนำข้าว โดยไม่แจ้งให้โรงสีทราบล่วงหน้า หากพบว่าโรงสีใดปฏิบัติผิดเงื่อนไขและทำผิดระเบียบรับจำนำ จะมีโทษหนักถอนชื่อโรงสีออกจากโครงการฯ และขึ้นบัญชีดำ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ กขช.ประจำจังหวัด ออกตรวจสอบไม่ให้มีการนำข้าวเก่าที่อยู่ในโรงสีออกมาเวียนเทียนปนกับข้าวรับจำนำใหม่ หากพบจะลงโทษหนักเช่นกัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเข้มงวดและออกสุ่มตรวจการรับจำนำข้าว โดยไม่แจ้งให้โรงสีทราบล่วงหน้า หากพบว่าโรงสีใดปฏิบัติผิดเงื่อนไขและทำผิดระเบียบรับจำนำ จะมีโทษหนักถอนชื่อโรงสีออกจากโครงการฯ และขึ้นบัญชีดำ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ กขช.ประจำจังหวัด ออกตรวจสอบไม่ให้มีการนำข้าวเก่าที่อยู่ในโรงสีออกมาเวียนเทียนปนกับข้าวรับจำนำใหม่ หากพบจะลงโทษหนักเช่นกัน