กาฬสินธุ์ - ค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์เผยโควตารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังประจำปี 52 ของกาฬสินธุ์ยังเหลืออีกว่า 1.2 หมื่นตัน ขณะที่ปริมาณข้าวเปลือกของเกษตรกรเหลืออยู่เพียง 5 พันตันเท่านั้น ยืนยันเพียงต่อความต้องการอย่างแน่นอน
นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย การค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังประจำปี 2552 ของรัฐบาล ซึ่งรอบแรกเปิดรับจำนำทั่วประเทศจำนวน 1.5 ล้านตัน โดยในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ได้โคว้ต้ารับจำนำข้าวเปลือกจำนวน 31,729 ตัน และได้เริ่มเปิดรับจำนำข้าวเปลือกมาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2552
โดยมีโรงสีในพื้นที่เข้าร่วม 2 แห่ง และโรงสีนอกพื้นที่อีก 5 แห่ง ปัจจุบันมีเกษตรนำข้าวเปลือกนาปรังเข้าร่วมโครงการรับจำนำแล้ว 24,486 ตันยังเหลือโควตารับจำนำอีก 7,243 ตัน
นายศิริพงษ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายขยายเพิ่มจำนวนรับจำข้าวขึ้นอีก 2 ล้านตัน โดยในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ได้รับการจัดสรรเพิ่มอีกจำนวน 4,952 ตัน ซึ่งรวมกับโค้วต้ารับจำนำรอบแรกเป็น 12,195 ตัน ทั้งนี้ จากการสอบถามและประสานงานปยังสำนักงานเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์พบว่าปริมาณข้าวนาปรังของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ที่คาดว่าจะนำมาจำนำขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 5,000 ตันเท่านั้น
ซึ่งเกษตรกรสามรถนำข้าวมาจำนำได้ทั้งหมด เพราะประมาณข้าวที่มีอยู่มีจำนวนน้อยกว่าโค้วต้ารับจำนำที่เหลืออยู่ 12,195 ตัน อย่างไรก็ตาม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์มีความเป็นห่วงและได้กำชับให้เข้มงวดเรื่องการสวมสิทธิ์จำนำข้าว
ดังนั้น เกษตรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องนำข้าวเปลือกที่เป็นของตนเองมาเข้าร่วมโครงกาเท่านั้น ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบและสามารถจับได้ว่ามีการกระทำผิดกฏหมาย โดยการสวมสิทธิ์จำนำข้าว โดยที่เกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์ผู้ที่กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย การค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังประจำปี 2552 ของรัฐบาล ซึ่งรอบแรกเปิดรับจำนำทั่วประเทศจำนวน 1.5 ล้านตัน โดยในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ได้โคว้ต้ารับจำนำข้าวเปลือกจำนวน 31,729 ตัน และได้เริ่มเปิดรับจำนำข้าวเปลือกมาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2552
โดยมีโรงสีในพื้นที่เข้าร่วม 2 แห่ง และโรงสีนอกพื้นที่อีก 5 แห่ง ปัจจุบันมีเกษตรนำข้าวเปลือกนาปรังเข้าร่วมโครงการรับจำนำแล้ว 24,486 ตันยังเหลือโควตารับจำนำอีก 7,243 ตัน
นายศิริพงษ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายขยายเพิ่มจำนวนรับจำข้าวขึ้นอีก 2 ล้านตัน โดยในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ได้รับการจัดสรรเพิ่มอีกจำนวน 4,952 ตัน ซึ่งรวมกับโค้วต้ารับจำนำรอบแรกเป็น 12,195 ตัน ทั้งนี้ จากการสอบถามและประสานงานปยังสำนักงานเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์พบว่าปริมาณข้าวนาปรังของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ที่คาดว่าจะนำมาจำนำขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 5,000 ตันเท่านั้น
ซึ่งเกษตรกรสามรถนำข้าวมาจำนำได้ทั้งหมด เพราะประมาณข้าวที่มีอยู่มีจำนวนน้อยกว่าโค้วต้ารับจำนำที่เหลืออยู่ 12,195 ตัน อย่างไรก็ตาม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์มีความเป็นห่วงและได้กำชับให้เข้มงวดเรื่องการสวมสิทธิ์จำนำข้าว
ดังนั้น เกษตรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องนำข้าวเปลือกที่เป็นของตนเองมาเข้าร่วมโครงกาเท่านั้น ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบและสามารถจับได้ว่ามีการกระทำผิดกฏหมาย โดยการสวมสิทธิ์จำนำข้าว โดยที่เกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์ผู้ที่กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด