นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม การช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตรว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างแผนเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยและฝนทิ้งช่วง ปี 2552 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร่างแผนฯ ดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อให้ได้แนวทางการดำเนินงานที่ครอบคลุมในการเตรียมรับสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือในช่วงเกิดภัย โดยพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ก่อนนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับแผนเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยและฝนทิ้งช่วง ปี 2552 จะแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะก่อนเกิดภัย ได้แก่ การติดตามสภาวะอากาศและแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ การทำแผนพร่องน้ำ แผนบริหารจัดการน้ำ แผนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำ การแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัย การตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวมถึงการจัดทำแผนการขุดลอกแหล่งน้ำและคลองระบายน้ำ การเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกล วัสดุอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ และแผนการสำรองเสบียงอาหารสัตว์และปัจจัยการผลิต
ระยะขณะเกิดภัย ได้แก่ การติดตามสภาวะอากาศ แจ้งเตือนภัยและรายงานสถานการณ์ โดยมีศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานกลางในการประสานติดตามสถานการณ์ การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำ การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น การปฏิบัติการฝนหลวง การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ การสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการประเมินและสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือด้วยเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และระยะหลังเกิดภัย จะดำเนินการสำรวจความเสียหาย ด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติจากเงินทดรองราชการจังหวัด/กระทรวง หรือเงินงบกลาง รวมทั้งการฟื้นฟูพื้นที่การเกษตร และฝึกอบรมอาชีพให้แก่เกษตรกร
ทั้งนี้ คาดว่าจากการเตรียมแผนรับสถานการณ์อุทกภัยและฝนทิ้งช่วง ปี 2552 จะทำให้ทุกหน่วยงานสามารถเตรียมรับสถานการณ์ภัยดังกล่าวอย่างทันท่วงที เกษตรกรได้รับการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า และผู้ที่ประสบภัยด้านการเกษตรได้รับความช่วยเหลือโดยทั่วถึง และรวดเร็ว
สำหรับแผนเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยและฝนทิ้งช่วง ปี 2552 จะแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะก่อนเกิดภัย ได้แก่ การติดตามสภาวะอากาศและแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ การทำแผนพร่องน้ำ แผนบริหารจัดการน้ำ แผนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำ การแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัย การตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวมถึงการจัดทำแผนการขุดลอกแหล่งน้ำและคลองระบายน้ำ การเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกล วัสดุอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ และแผนการสำรองเสบียงอาหารสัตว์และปัจจัยการผลิต
ระยะขณะเกิดภัย ได้แก่ การติดตามสภาวะอากาศ แจ้งเตือนภัยและรายงานสถานการณ์ โดยมีศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานกลางในการประสานติดตามสถานการณ์ การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำ การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น การปฏิบัติการฝนหลวง การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ การสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการประเมินและสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือด้วยเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และระยะหลังเกิดภัย จะดำเนินการสำรวจความเสียหาย ด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติจากเงินทดรองราชการจังหวัด/กระทรวง หรือเงินงบกลาง รวมทั้งการฟื้นฟูพื้นที่การเกษตร และฝึกอบรมอาชีพให้แก่เกษตรกร
ทั้งนี้ คาดว่าจากการเตรียมแผนรับสถานการณ์อุทกภัยและฝนทิ้งช่วง ปี 2552 จะทำให้ทุกหน่วยงานสามารถเตรียมรับสถานการณ์ภัยดังกล่าวอย่างทันท่วงที เกษตรกรได้รับการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า และผู้ที่ประสบภัยด้านการเกษตรได้รับความช่วยเหลือโดยทั่วถึง และรวดเร็ว
