วานนี้(29 มิ.ย.)นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า กรณีมีฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในวันที่ 25-28 มิ.ย.ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก น่าน พะเยา และสุโขทัย รวม 29 อำเภอ 133 ตำบล 896 หมู่บ้าน 37,147 ครัวเรือน 118,856 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 53,227 ไร่ ถนน 63 สาย ฝาย/ทำนบ 55 แห่ง สะพาน/คอสะพาน 45 แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง 208 บ่อ ปศุสัตว์ 3,917 ตัว ผู้เสียชีวิต 1 ราย (อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก) ผู้สูญหาย 1 ราย (อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน)
ทั้งนี้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย มีความห่วงใยพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดน่าน ตาก เชียงราย สุโขทัย และพะเยา โดยสถานการณ์น้ำท่วมยังน่าเป็นห่วง จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง และเขต 15 เชียงราย ระดมเครื่องจักรกล อุปกรณ์เครื่องมือ เรือท้องแบน รถบรรทุก สนับสนุนการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงเตรียมการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่สภาพปกติภายหลังน้ำลด
นอกจากนี้ ยังได้สั่งกำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมการเฝ้าระวัง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมแจ้งเตือนภัยให้เครือข่ายในระดับพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือและอพยพ ประชาชนในทันทีที่ได้รับการประสานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับจังหวัดที่เป็นพื้นที่รับน้ำ ให้บูรณาการวางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับจังหวัดใกล้เคียง เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำหลากที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วย เหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784.
ทั้งนี้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย มีความห่วงใยพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดน่าน ตาก เชียงราย สุโขทัย และพะเยา โดยสถานการณ์น้ำท่วมยังน่าเป็นห่วง จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง และเขต 15 เชียงราย ระดมเครื่องจักรกล อุปกรณ์เครื่องมือ เรือท้องแบน รถบรรทุก สนับสนุนการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงเตรียมการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่สภาพปกติภายหลังน้ำลด
นอกจากนี้ ยังได้สั่งกำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมการเฝ้าระวัง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมแจ้งเตือนภัยให้เครือข่ายในระดับพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือและอพยพ ประชาชนในทันทีที่ได้รับการประสานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับจังหวัดที่เป็นพื้นที่รับน้ำ ให้บูรณาการวางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับจังหวัดใกล้เคียง เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำหลากที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วย เหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784.