ชาวบ้านดงป่าสัก ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 339 หมู่บ้าน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากของ จ.น่าน สำรวจแนวหินกั้นตลิ่งของลำน้ำห้วยเกี๋ยนที่เริ่มชำรุด เนื่องจากน้ำเริ่มไหลแรงขึ้น ทำให้ชาวบ้านต้องจัดเวรยามสังเกตปริมาณน้ำตลอดเวลา และเก็บสิ่งของเครื่องใช้ที่เตรียมพร้อมอพยพ เพราะเกรงว่า จะมีน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มเหมือนปีที่แล้ว
ขณะที่หมู่บ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.มะปราง จ.พิษณุโลก เป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกน้ำท่วมประจำทุกปี ทำให้ลูกบ้านต้องหมั่นตรวจสอบเครื่องวัดปริมาณน้ำฝน และคอยสอบถามชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำอื่น เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.เนินชมพู ซึ่งเป็นมิสเตอร์เตือนภัยบ้านปลวกง่าม บอกว่า ชาวบ้านมั่นใจระบบเตือนภัยมากขึ้น หลังจากไม่เชื่อการแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อปีที่แล้ว จนน้ำท่วมบ้านเรือนกว่า 200 หลังคาเรือน และมีผู้ประสบภัยกว่า 1,000 คน
สำหรับโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น โรงเรียนบ้านปลวกง่าม ต้องยกความสูงให้อาคารไม้ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้ ยังจัดครูดูแลทรัพย์สิน ทั้งเครื่องเขียน แบบเรียนของนักเรียน เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากสร้างความเสียหายให้กับโรงเรียนมาแล้วหลายครั้ง
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย ระบุว่า พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าและดินถล่มขณะนี้ มีมากในภาคเหนือและภาคใต้ โดยเฉพาะในหุบเขา หรือพื้นที่ติดกับทางน้ำ ปัจจุบันมีหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 51 จังหวัด จำนวน 2,371 หมู่บ้าน ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเคยเกิดน้ำป่าและดินถล่มมาแล้ว
ขณะที่หมู่บ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.มะปราง จ.พิษณุโลก เป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกน้ำท่วมประจำทุกปี ทำให้ลูกบ้านต้องหมั่นตรวจสอบเครื่องวัดปริมาณน้ำฝน และคอยสอบถามชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำอื่น เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.เนินชมพู ซึ่งเป็นมิสเตอร์เตือนภัยบ้านปลวกง่าม บอกว่า ชาวบ้านมั่นใจระบบเตือนภัยมากขึ้น หลังจากไม่เชื่อการแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อปีที่แล้ว จนน้ำท่วมบ้านเรือนกว่า 200 หลังคาเรือน และมีผู้ประสบภัยกว่า 1,000 คน
สำหรับโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น โรงเรียนบ้านปลวกง่าม ต้องยกความสูงให้อาคารไม้ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้ ยังจัดครูดูแลทรัพย์สิน ทั้งเครื่องเขียน แบบเรียนของนักเรียน เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากสร้างความเสียหายให้กับโรงเรียนมาแล้วหลายครั้ง
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย ระบุว่า พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าและดินถล่มขณะนี้ มีมากในภาคเหนือและภาคใต้ โดยเฉพาะในหุบเขา หรือพื้นที่ติดกับทางน้ำ ปัจจุบันมีหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 51 จังหวัด จำนวน 2,371 หมู่บ้าน ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเคยเกิดน้ำป่าและดินถล่มมาแล้ว
