นายอิสสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจที่อยู่อาศัยในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ว่า ดีเกินคาดคือ ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกปี 2551 เนื่องจากปัจจัยบวกจากมาตรการภาษีของรัฐบาล บวกกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลง ล่าสุดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 5-6 ลดภาระการส่งค่างวดบ้านให้กับผู้ซื้อ และเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ ประกอบกับผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ดังนั้น ในช่วงที่เหลือที่เชื่อว่าเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศถึงจุดต่ำสุดแล้วและมีแนวโน้มดีขึ้น บวกกับธนาคารลดดอกเบี้ยลง และผลดีจากแนวโน้มการส่งออก ตลอดจนด้านการท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวดีขึ้น ล้วนส่งผลให้ธุรกิจที่อยู่อาศัยมีผลประกอบการดีขึ้น
สำหรับภาพรวมทั้งปี 2552 นั้น คาดว่าจะดีกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งภาพรวมของการจดทะเบียนก่อสร้างจะใกล้เคียงปี 2551 ที่ 82,000 ยูนิต จากที่ปี 2550 อยู่ที่ 74,000 ยูนิต และขณะนี้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดคอนโดมิเนียม คือ ผู้มีเงินออมที่ซื้อคอนโดมิเนียมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลตอบแทนของเงินฝากต่ำคนกลุ่มนี้เล็งเห็นโอกาสในการได้กำไร จึงซื้อลงทุนไว้ และได้นำออกมาขายในปีนี้ จากราคาที่ซื้อตารางเมตรละ 30,000-40,000 บาท ขายได้กำไรค่อนข้างมาก เพราะปีนี้ราคาขยับขึ้นตารางเมตรละ 70,000-90,000 บาท โดยเฉพาะทำเลดี ๆ ซึ่งสัดส่วนของการขายลักษณะนี้มีสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 10 ของตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน และสถานการณ์นี้จะต่อเนื่องไปปี 2553 ยืนยันการลงทุนของผู้มีเงินออมเป็นการลงุทนไม่ใช่เก็งกำไรเหมือนปี 2540 การลงทุนของนักลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะผลตอบแทนดอกเบี้ยต่ำ
สำหรับภาพรวมทั้งปี 2552 นั้น คาดว่าจะดีกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งภาพรวมของการจดทะเบียนก่อสร้างจะใกล้เคียงปี 2551 ที่ 82,000 ยูนิต จากที่ปี 2550 อยู่ที่ 74,000 ยูนิต และขณะนี้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดคอนโดมิเนียม คือ ผู้มีเงินออมที่ซื้อคอนโดมิเนียมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลตอบแทนของเงินฝากต่ำคนกลุ่มนี้เล็งเห็นโอกาสในการได้กำไร จึงซื้อลงทุนไว้ และได้นำออกมาขายในปีนี้ จากราคาที่ซื้อตารางเมตรละ 30,000-40,000 บาท ขายได้กำไรค่อนข้างมาก เพราะปีนี้ราคาขยับขึ้นตารางเมตรละ 70,000-90,000 บาท โดยเฉพาะทำเลดี ๆ ซึ่งสัดส่วนของการขายลักษณะนี้มีสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 10 ของตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน และสถานการณ์นี้จะต่อเนื่องไปปี 2553 ยืนยันการลงทุนของผู้มีเงินออมเป็นการลงุทนไม่ใช่เก็งกำไรเหมือนปี 2540 การลงทุนของนักลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะผลตอบแทนดอกเบี้ยต่ำ