นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รักษาการอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้ประเมินผลการส่งออกสินค้าไทยภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยได้เซ็นสัญญากับคู่เจรจา 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย-ออสเตรเลีย ไทย-นิวซีแลนด์ ไทย-อินเดีย อาเซียน-จีน และไทย-ญี่ปุ่น พบว่าสินค้าไทยสามารถบุกเจาะตลาดได้เพิ่มขึ้น ทั้งสินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าเกษตร รวมไปถึงสินค้าบริการ โดยในปีที่ผ่านมาไทยส่งออกภายใต้ FTA เป็นมูลค่า 11,559.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนต่อการส่งออก รวมร้อยละ 27.8 โดยมูลค่าส่งออกรวมไปยัง 5 ประเทศ ที่ทำ FTA ปี 2551 คิดเป็นมูลค่า 45,491.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14
สำหรับสินค้าที่ไทยส่งออกเพิ่มขึ้นภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ประกอบด้วย รถบรรทุกชนิดแวน และปิกอัพ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ปลาที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย และเครื่องประดับทำด้วยโลหะมีค่า นอกจากนี้ ยังมีสินค้าเกษตรที่เคยมีปัญหาด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด เช่น มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ สับปะรดแกะเปลือก ทุเรียนแกะเปลือก ส้มโอแกะเปลือก และปลาสวยงาม ก็สามารถเข้าสู่ตลาดได้
ส่วนความตกลงกันเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ไทย-นิวซีแลนด์ พบว่าสินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารทะเลกระป๋อง ในขณะนี้ที่สินค้าเกษตรที่เคยประสบปัญหาสุขอนามัย อย่างลำไย ลิ้นจี่ มังคุด ขิงสด และทุเรียนแกะเปลือก ก็เข้าสู่ตลาดได้แล้ว
ขณะเดียวกัน ในส่วนของความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย ตั้งแต่เปิดเสรีสินค้าบางส่วน 82 รายการ เหลือร้อยละ 0 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2549 สินค้าที่ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น คือ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วนประกอบ หลอดภาพโทรทัศน์ และเครื่องรับโทรทัศน์สี ซึ่งเป็นผลให้ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับอินเดีย ทั้งในกลุ่มสินค้า EHS และในภาพรวม
สำหรับสินค้าที่ไทยส่งออกเพิ่มขึ้นภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ประกอบด้วย รถบรรทุกชนิดแวน และปิกอัพ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ปลาที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย และเครื่องประดับทำด้วยโลหะมีค่า นอกจากนี้ ยังมีสินค้าเกษตรที่เคยมีปัญหาด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด เช่น มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ สับปะรดแกะเปลือก ทุเรียนแกะเปลือก ส้มโอแกะเปลือก และปลาสวยงาม ก็สามารถเข้าสู่ตลาดได้
ส่วนความตกลงกันเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ไทย-นิวซีแลนด์ พบว่าสินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารทะเลกระป๋อง ในขณะนี้ที่สินค้าเกษตรที่เคยประสบปัญหาสุขอนามัย อย่างลำไย ลิ้นจี่ มังคุด ขิงสด และทุเรียนแกะเปลือก ก็เข้าสู่ตลาดได้แล้ว
ขณะเดียวกัน ในส่วนของความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย ตั้งแต่เปิดเสรีสินค้าบางส่วน 82 รายการ เหลือร้อยละ 0 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2549 สินค้าที่ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น คือ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วนประกอบ หลอดภาพโทรทัศน์ และเครื่องรับโทรทัศน์สี ซึ่งเป็นผลให้ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับอินเดีย ทั้งในกลุ่มสินค้า EHS และในภาพรวม
