นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า สภาพัฒน์คาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2552 จะติดลบร้อยละ 2.5-3.5 หลังเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปีนี้ติดลบร้อยละ 7.1 ที่เป็นจุดต่ำสุดในรอบ 12 ปี จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก ความผันผวนต่อเนื่องของราคาน้ำมัน และปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปี ติดลบร้อยละ 0.3 และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ไตรมาสที่ 2 เศรษฐกิจไทยจะติดลบน้อยลง เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับรัฐบาลมีการลงทุนตามแผนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2552 และเพิ่มเติมกลางปี จำนวน 116,700 ล้านบาท และการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2553 การดูแล ปรับปรุงกลไกการช่วยเหลือเกษตรกร และนโยบายการเงินในการเสริมสภาพคล่อง โดยรัฐบาลจำเป็นต้องลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ภายในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ เพื่อให้เกิดการขยายตัวของการลงทุน และไม่ล่าช้าเกินไป จะต้องระมัดระวังความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมัน ที่มีผลต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนด้วย
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ไตรมาสที่ 2 เศรษฐกิจไทยจะติดลบน้อยลง เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับรัฐบาลมีการลงทุนตามแผนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2552 และเพิ่มเติมกลางปี จำนวน 116,700 ล้านบาท และการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2553 การดูแล ปรับปรุงกลไกการช่วยเหลือเกษตรกร และนโยบายการเงินในการเสริมสภาพคล่อง โดยรัฐบาลจำเป็นต้องลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ภายในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ เพื่อให้เกิดการขยายตัวของการลงทุน และไม่ล่าช้าเกินไป จะต้องระมัดระวังความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมัน ที่มีผลต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนด้วย