“นายก” พร้อมคณะบินเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงฮ่องกงแล้ว พบนักธุรกิจ-สื่อ หวังสร้างความเชื่อมั่น คงระดับการท่องเที่ยวร่วมกัน เผยเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรก หลังเกิดเหตุคนเสื้อแดงเผาบ้านเมือง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
วันนี้ (15 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร ฝูงเครื่องบิน กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก โดยเครื่องบินเที่ยวบินพิเศษของกองทัพบก (ERJ 135 LR) ไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเพื่อเจรจาทำงาน ( Working Visit ) และพบปะเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักธุรกิจสำคัญของฮ่องกง ซึ่งถือได้ว่าเป็นคู่ค้าและคู่ลงทุนที่สำคัญของไทยมาโดยตลอด โดยการเยือนครั้งนี้คาดหวังผลในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อภาพลักษณ์ของ ประเทศไทย และส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
โดยในช่วงเที่ยงนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่ Hong Kong Trade Development Council เป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ณ โรงแรมMandarin Oriental จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปยัง Hong Kong Government House เพื่อพบหารือกับนาย Donald Tsang ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง และในเวลา 15.10 น. นายกรัฐมนตรีพบปะกับสื่อมวลชนฮ่องกง ณ Foreign Correspondents’ Club Hong Kong (FCCHK)
เวลา 17.45 น. นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบปะนักลงทุนระดับผู้บริหารและผู้จัดการกองทุนการ เงินต่างๆ จากนั้นในช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีจะร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำกับนักธุรกิจฮ่องกง ณ The Hong Kong Club เวลา 21.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางออกจากฮ่องกง โดยเครื่องบินเที่ยวบินพิเศษของกองทัพบก (ERJ 135 LR) กลับประเทศไทย และเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร ฝูงเครื่องบิน กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก ในเวลา 23.30 น.
ทั้งนี้คณะที่เดินทางไปนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ประกอบด้วย นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามกำหนดการเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในครั้งนี้ เป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีครั้งแรก หลังจากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศเมื่อเดือนเมษายน