“มาร์ค” ยันใช้ทำเนียบถก ครม.สัปดาห์หน้า - “เทือก” อึดอัดอัยการไม่ฟ้อง นปช.ป่วนบ้านป๋า

“อภิสิทธิ์” ยันใช้ทำเนียบประชุม ครม.สัปดาห์หน้า พร้อมย้ำไม่ใช้กำลังสลายม็อบเสื้อแดง เผยวาระงานนายกฯ จันทร์นี้ แน่นเอี๊ยดนอกทำเนียบ แถมเตรียมบินประชุมสุดยอดกรุงลอนดอน 31 มี.ค.-3 เม.ย.นี้ ด้าน “เทพเทือก” รับไม่สบายใจอัยการสั่งไม่ฟ้อง นปช.บุกบ้านป๋า ลั่นคดียังไม่สิ้นสุด สตช.ยังสามารถพิจารณาแย้งความเห็นเสนอกลับไปยังอัยการได้

วันนี้ (27 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อัยการไม่ส่งฟ้อง กรณี นปช.บุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษว่า คงต้องไปดูรายละเอียดของคำวินิจฉัย เพิ่งทราบเพียงว่าไม่ส่งฟ้อง และไม่แน่ใจว่าตรงนี้ถึงที่สุดแล้วหรือยัง หรือต้องส่งกลับไปที่ตำรวจอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เตรียมที่ทำงานสำรองทำเนียบรัฐบาลไว้หรือยัง นายอภิสิทธิ์กล่าวยืนยันว่า ไม่มี คิดว่าตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร และวันนี้ตนยังทำงานตามปกติ วันนี้ที่ต้องมาพรรคถึง 2 ครั้งนั้น เพราะพรุ่งนี้ 28 มี.ค.ต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อเตรียมการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ส่วนการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้ายังคงมีการประชุมตามปกติที่ทำเนียบรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเข้าไปได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เปิดประตูเข้าไป เมื่อถามว่าจะไม่มีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะไม่มีการใช้ความรุนแรง เชื่อว่าจะไม่มีการปะทะกัน

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องแกนนำ นปช.บุกบ้าน พล.อ.เปรม ว่ารู้สึกไม่สบายใจในความเห็นของอัยการที่สั่งไม่ฟ้องแกนนำ นปช.ในเรื่องดังกล่าว แต่คดีนี้ยังไม่ถือว่าสิ้นสุด เนื่องจากทางอัยการต้องส่งสำนวนกลับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อีกครั้ง โดยทาง สตช.จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาว่าเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของอัยการหรือไม่ หากไม่เห็นด้วยก็สามารถนำความเห็นดังกล่าวแย้งไปยังอัยการสูงสุดให้พิจารณาตัดสินใจในชั้นอัยการสูงสุดได้อีก โดยทางอัยการสูงสุดจะวินิจฉัยว่าส่งฟ้องคดีนี้หรือไม่ ฉะนั้น คดีนี้ยังมีขั้นตอนซึ่งการดำเนินการต่อไปเป็นหน้าที่ของ สตช.ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซงความเห็นของอัยการ เพราะอัยการถือเป็นองค์กรอิสระ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจนายกรัฐมนตรีในวันที่ 30 มี.ค.นี้นั้น เวลา 08.20 น.ผู้อำนวยการใหญ่ FAO เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ จากนั้นเวลา 09.00 น.เป็นประธานเปิดการประชุมสมัชชา FAO ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 29 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2552 พร้อมมอบเกียรติบัตร และเข็มเชิดชูเกียรติข้าราชการพลเรือนดีเด่นและมอบรางวัลการบริหารทรัพยากรบุคคล ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ เวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรีปาฐกถาพิเศษ เรื่อง Thailand's Foreign Policy in the 21st Century และร่วมงานเลี้ยงรับรอง ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ และเวลา 15.00 น.นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษและกล่าวปิดงานสัมมนาเรื่อง “วิกฤตชายแดนใต้จะยุติลงได้อย่างไร” ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยภริยา และคณะ ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการอาเซียน มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรุงลอนดอน London Summit ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ในฐานะประธานอาเซียน ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม - 3 เมษายน 2552

ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดกรุงลอนดอน ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร หรือ London Summit เป็นเวทีที่จะรวมผู้นำจากประเทศพัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนาของประเทศกลุ่ม G 20 ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐเกาหลี ตุรกี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป รวมถึงองค์กรสถาบันการเงิน อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ธนาคารโลก

อย่างไรก็ตาม โอกาสนี้ทางสหราชอาณาจักร ประเทศเจ้าภาพได้เชิญผู้แทนจากภูมิภาคอื่นได้แก่ ประธานาธิบดีสโมเลสแห่งเอธิโอเปีย ในฐานะประธานของ NEPAD นายกรัฐมนตรีของไทยในฐานะประธานอาเซียน และเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เข้าร่วมการประชุมด้วย เพื่อให้มั่นใจว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้รวบรวมความคิดเห็นจากทุกภิภาคทั่วโลก เพื่อร่วมกันฟื้นฟูความเข้มแข็งและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยการประชุมมีเป้าหมายเพื่อบรรลุความตกลงระหว่างประเทศ ในด้านการปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ การปฏิรูปและพัฒนาภาคและระบบการเงิน และหลักการของการปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ

รายงานข่าวระบุว่า นายกฯ เตรียมกล่าวถึงเป้าหมายของการเข้าร่วมการประชุมในฐานะประธานอาเซียนว่า เพื่อร่วมกันนำเสนอแนวทางและการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยจะต้องมีการประสานงานเพื่อให้เกิดความสอดคล้องของนโยบายเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาไปในทิศทางเดียวกัน การยืนยันการไม่ให้เกิดการกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ บทบาทของกองทุนการเงินระหว่างประเทศในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลกและการปรับโครงสร้าง รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ในลักษณะนี้อีก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะมีกำหนดการเดินทางออกจากประเทศไทยวันอังคารที่ 31 มีนาคม 2552 โดยเที่ยวบินที่ TG 916 เวลา 12.25 น.และเดินทางถึงกรุงลอนดอนเวลา 18.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่ากรุงเทพฯ 6 ชั่วโมง) ในวันเดียวกัน ส่วนในวันพุธที่ 1 เมษายน 2552 นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ ณ Asia House และพบปะหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และประธานธนาคารโลก ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีและภริยาจะร่วมงานเลี้ยงรับรอง ซึ่งสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และ Duke of Edinburg พระราชทานเลี้ยงรับรองเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำต่างประเทศและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุม จากนั้นตอนค่ำ จะร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำต่างประเทศและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรี

สำหรับวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2552 ในช่วงเช้านายกรัฐมนตรีร่วมรับประทานอาหารเช้าร่วมกับผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดลอนดอน ณ ศูนย์การประชุม ExCel ต่อด้วยการถ่ายภาพหมู่ผู้นำ การประชุมเต็มคณะ และการแถลงข่าวการประชุมในช่วงบ่าย และวันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2552 นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยภริยาและคณะ จะออกเดินทางจากกรุงลอนดอน กลับประเทศไทย เวลา 12.30 น.และจะถึงกรุงเทพฯเวลา 06.05 น.วันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2552