ผลจากการแต่งตั้งของประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 8-14 เมษายน นัดประชุมครั้งแรกวันอังคารที่ 12 พฤษภาคม เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา โดยนายอัชพร จารุจินดา เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการชุมนุม เปิดเผยว่า กรอบการประชุมนัดแรกจะรวมกันวางกรอบการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะประเด็นต่างๆ ซึ่งอาจเริ่มต้นพิจารณาทุกประเด็นที่มีการถกเถียงข้อเท็จจริงกัน
เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการชุมนุม ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย เป็นประเด็นที่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกรณีนายกรัฐมนตรีอยู่ในรถยนต์ประจำตำแหน่งที่ถูกทุบหรือไม่ เพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน แต่ยอมรับว่า คณะกรรมการทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่ได้อยู่ระดับที่จะชี้ถูกหรือผิดต่อเหตุการณ์ต่างๆ ได้
ส่วน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการชุมนุม ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า ควรตรวจสอบข้อเท็๗จริง กรณีที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง เนื่องจากประเด็นนี้จะชี้ให้เห็นถึงแนวทางการชุมนุม เพราะนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงความรุนแรงในระดับที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด และย้ำว่า ผลสรุปจะชี้ข้อเท็จจริงได้
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการชุดนี้ได้หารือนอกรอบแล้ว เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการได้เร็วขึ้น หลังคำสั่งแต่งตั้งล่าช้ากว่าคณะกรรมการสมานฉันท์ฯเกือบ 1 สัปดาห์ ซึ่งผลการประชุมนอกรอบได้วางกรอบการทำงานพร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 3 ชุด ประกอบด้วยอนุกรรมการการตรวจสอบเหตุการณ์ชุมนุมที่พัทยา การชุมนุมที่กระทรวงมหาดไทย และการปะทะกันที่นางเลิ้ง อนุกรรมการรับข้อมูลข่าวสารและข้อเรียกร้อง และอนุกรรมการสรุปข้อเท็จจริงเพื่อเสนอต่อรัฐสภา
เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการชุมนุม ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย เป็นประเด็นที่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกรณีนายกรัฐมนตรีอยู่ในรถยนต์ประจำตำแหน่งที่ถูกทุบหรือไม่ เพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน แต่ยอมรับว่า คณะกรรมการทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่ได้อยู่ระดับที่จะชี้ถูกหรือผิดต่อเหตุการณ์ต่างๆ ได้
ส่วน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการชุมนุม ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า ควรตรวจสอบข้อเท็๗จริง กรณีที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง เนื่องจากประเด็นนี้จะชี้ให้เห็นถึงแนวทางการชุมนุม เพราะนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงความรุนแรงในระดับที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด และย้ำว่า ผลสรุปจะชี้ข้อเท็จจริงได้
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการชุดนี้ได้หารือนอกรอบแล้ว เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการได้เร็วขึ้น หลังคำสั่งแต่งตั้งล่าช้ากว่าคณะกรรมการสมานฉันท์ฯเกือบ 1 สัปดาห์ ซึ่งผลการประชุมนอกรอบได้วางกรอบการทำงานพร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 3 ชุด ประกอบด้วยอนุกรรมการการตรวจสอบเหตุการณ์ชุมนุมที่พัทยา การชุมนุมที่กระทรวงมหาดไทย และการปะทะกันที่นางเลิ้ง อนุกรรมการรับข้อมูลข่าวสารและข้อเรียกร้อง และอนุกรรมการสรุปข้อเท็จจริงเพื่อเสนอต่อรัฐสภา
