นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานสักขีพยานลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน 23 สมาคม กับสถาบันการเงินรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เอสเอ็มอีแบงก์ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อร่วมกันแก้ไขเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกที่จะมีเงินทุนหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม นางพรทิวา ยอมรับว่าที่ผ่านมาภาคเอกชนประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง จึงจำเป็นต้องร่วมมือกันส่งเสริมให้เอกชนนำเงินสินเชื่อไปเสริมสภาพคล่อง และทำให้ภาคการส่งออกของไทยมีอัตราการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนภาษีมุมน้ำเงินนั้น นางพรทิวา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า เรื่องภาษีมุมน้ำเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดค่อนข้างมาก จึงต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อศึกษาให้รอบด้านก่อน หลังจากได้ข้อสรุปจะเสนอ ครม. เร็ว ๆ นี้
ด้านนายประดิษฐ์ กล่าวว่า ในหลักการกระทรวงการคลังไม่ขัดข้องที่กระทรวงพาณิชย์จะนำมาตรการภาษีมุมน้ำเงินมากระตุ้นภาคการส่งออก โดยเฉพาะช่วยเหลือผู้ส่งออก แต่การปรับลดภาษีจะต้องพิจารณาลงลึกทุกด้าน หากภาครัฐใช้มาตรการภาษีกระตุ้นการส่งออก เมื่อภาครัฐสูญเสียรายได้แต่สามารถผลักดันให้การส่งออกเติบโตมีเงินกลับเข้ามาในประเทศจำนวนมากก็จะต้องดูด้านอื่นๆ เช่น ทำให้ภาคธุรกิจมีสภาพคล่องหรือเกิดการจ้างงานหรือเกิดการลงทุนมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์จะต้องพิจารณาร่วมกันว่าหากนำมาตรการดังกล่าวมาใช้จะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมการส่งออกมากน้อยแค่ไหน ซึ่งขณะนี้ขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ว่าจะกำหนดแนวทางการศึกษาของภาษีมุมน้ำเงิน และเมื่อพิจารณาแล้วเสร็จก็จะประชุมร่วมกันก่อนนำเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นางพรทิวา ยอมรับว่าที่ผ่านมาภาคเอกชนประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง จึงจำเป็นต้องร่วมมือกันส่งเสริมให้เอกชนนำเงินสินเชื่อไปเสริมสภาพคล่อง และทำให้ภาคการส่งออกของไทยมีอัตราการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนภาษีมุมน้ำเงินนั้น นางพรทิวา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า เรื่องภาษีมุมน้ำเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดค่อนข้างมาก จึงต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อศึกษาให้รอบด้านก่อน หลังจากได้ข้อสรุปจะเสนอ ครม. เร็ว ๆ นี้
ด้านนายประดิษฐ์ กล่าวว่า ในหลักการกระทรวงการคลังไม่ขัดข้องที่กระทรวงพาณิชย์จะนำมาตรการภาษีมุมน้ำเงินมากระตุ้นภาคการส่งออก โดยเฉพาะช่วยเหลือผู้ส่งออก แต่การปรับลดภาษีจะต้องพิจารณาลงลึกทุกด้าน หากภาครัฐใช้มาตรการภาษีกระตุ้นการส่งออก เมื่อภาครัฐสูญเสียรายได้แต่สามารถผลักดันให้การส่งออกเติบโตมีเงินกลับเข้ามาในประเทศจำนวนมากก็จะต้องดูด้านอื่นๆ เช่น ทำให้ภาคธุรกิจมีสภาพคล่องหรือเกิดการจ้างงานหรือเกิดการลงทุนมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์จะต้องพิจารณาร่วมกันว่าหากนำมาตรการดังกล่าวมาใช้จะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมการส่งออกมากน้อยแค่ไหน ซึ่งขณะนี้ขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ว่าจะกำหนดแนวทางการศึกษาของภาษีมุมน้ำเงิน และเมื่อพิจารณาแล้วเสร็จก็จะประชุมร่วมกันก่อนนำเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้ง