นายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ส่วนตัวเห็นว่าควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ที่ว่าด้วยการยุบพรรคการเมือง เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับนักการเมืองที่มิได้กระทำความผิด อีกทั้งยังเห็นว่าการยุบพรรคการเมืองทำให้ระบอบประชาธิปไตยอ่อนแอ เพราะพรรคการเมืองถือเป็นแม่บทสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย หากถูกสลายได้โดยง่ายและไม่เข้มเข็ง โอกาสที่จะพัฒนาระบอบประชาธิปไตย คงเป็นไปได้ยาก ส่วนประเด็นเรื่องนิรโทษกรรมนั้น ตนเองเห็นว่าควรแยกประเด็นกัน เพราะหากจะนำเรื่องการนิรโทษกรรมไปรวมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก อีกทั้งจะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญกลายเป็นเรื่องน่ากลัว แต่หากทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าควรมีการนิรโทษกรรม ก็ควรไปออกกฎหมายต่างหาก
ส่วนกรอบระยะเวลาในการทำงานนั้น ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองฯ กล่าวว่า เบื้องต้นตนเองได้ตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะอยู่ประมาณ 45 วัน
ส่วนกรอบระยะเวลาในการทำงานนั้น ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองฯ กล่าวว่า เบื้องต้นตนเองได้ตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะอยู่ประมาณ 45 วัน