นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) วันนี้ เห็นชอบให้ปรับลดเงินสมทบส่งเข้ากองทุนประกันสังคมของฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างลงร้อยละ 2 จากเดิมร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 3 โดยการลดครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ไม่ว่าจะเป็นกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร หรือการว่างงาน แต่จะมีผลเล็กน้อยในส่วนของกองทุนชราภาพ ที่เงินบำเหน็จชราภาพที่ลูกจ้างจะได้รับเมื่อมีอายุครบ 55 ปี จะหายไปจำนวนหนึ่ง โดยที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ขอเงินสนับสนุนเพิ่มเติมจากรัฐบาล เพื่อชดเชยในส่วนนี้ ทั้งนี้ เงื่อนไขการลดเงินสมทบเข้ากองทุนฯ กำหนดสิ้นสุดภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2552
สำหรับขั้นตอนจากนี้ไป จะนำผลสรุปเสนอไปยังนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตีความ ก่อนการประกาศใช้เป็นกฎกระทรวง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ การลดการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ครั้งนี้ จะทำให้ฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างมีรายได้เพิ่มขึ้นสำหรับการใช้จ่าย เป็นวงเงินรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท
สำหรับขั้นตอนจากนี้ไป จะนำผลสรุปเสนอไปยังนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตีความ ก่อนการประกาศใช้เป็นกฎกระทรวง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ การลดการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ครั้งนี้ จะทำให้ฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างมีรายได้เพิ่มขึ้นสำหรับการใช้จ่าย เป็นวงเงินรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท