นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์กรลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) มีมติเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินมาตรการลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของนายจ้างและลูกจ้างอีกร้อยละ 2.5 จากเดิมที่ต้องจ่ายร้อยละ 5 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้างและลูกจ้างในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจว่าเรื่องดังกล่าวคิดว่าลูกจ้างจะไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนัก เพราะคิดเป็นเงินแล้วลูกจ้างจะได้รับเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยรายละประมาณ 200-300 ต่อเดือน แต่จะส่งผลกระทบกับเงินกองทุนชราภาพในอนาคตที่เงินจะหายไปหลายหมื่นล้านบาท
นายมนัส กล่าวอีกว่า แต่หากรัฐบาลนำเงินมาจ่ายแทนส่วนนี้ก็ถือว่าไม่มีปัญหา ส่วนกรณีที่บอร์ด สปส.มีมติที่จะจัดซื้อข้าวสารแจกผู้ประกันตนคนละ 5 กิโลกรัมนั้น ตนและผู้นำแรงงานจากสภาต่างๆ ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เนื่องจากข้าวสาร 5 กิโลกรัม คิดเป็นเงินประมาณ 100 บาท ไม่ได้ช่วยให้ผู้ประกันตนอยู่รอด แต่อยากให้นำเงินส่วนนี้ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ไปช่วยเหลือลูกจ้างที่กำลังเดือดร้อน เช่นลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง แต่ยังส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ไม่ถึง 180 วัน ทำให้ไม่ได้รับเงินประกันจากการว่างงาน จะดีกว่า ซึ่งคนประเภทนี้เป็นแรงงานที่จบใหม่ ทำงานไม่ถึง 6 เดือน แต่มาถูกเลิกจ้างเสียก่อนทำให้เดือดร้อนมาก โดยในวันจันทร์ที่ 26 มกราคมนี้ ตนพร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์กรแรงงานแห่งประเทศไทย จะไปยื่นหนังสือทักท้วงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ทบทวนมติทั้ง 2 เรื่อง
นายมนัส กล่าวอีกว่า แต่หากรัฐบาลนำเงินมาจ่ายแทนส่วนนี้ก็ถือว่าไม่มีปัญหา ส่วนกรณีที่บอร์ด สปส.มีมติที่จะจัดซื้อข้าวสารแจกผู้ประกันตนคนละ 5 กิโลกรัมนั้น ตนและผู้นำแรงงานจากสภาต่างๆ ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เนื่องจากข้าวสาร 5 กิโลกรัม คิดเป็นเงินประมาณ 100 บาท ไม่ได้ช่วยให้ผู้ประกันตนอยู่รอด แต่อยากให้นำเงินส่วนนี้ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ไปช่วยเหลือลูกจ้างที่กำลังเดือดร้อน เช่นลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง แต่ยังส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ไม่ถึง 180 วัน ทำให้ไม่ได้รับเงินประกันจากการว่างงาน จะดีกว่า ซึ่งคนประเภทนี้เป็นแรงงานที่จบใหม่ ทำงานไม่ถึง 6 เดือน แต่มาถูกเลิกจ้างเสียก่อนทำให้เดือดร้อนมาก โดยในวันจันทร์ที่ 26 มกราคมนี้ ตนพร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์กรแรงงานแห่งประเทศไทย จะไปยื่นหนังสือทักท้วงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ทบทวนมติทั้ง 2 เรื่อง